ลูกเสือ
ลูกเสือ เป็นองค์กรเยาวชนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นองค์กรที่สร้างเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม ลูกเสือมีความหมายมากกว่าแค่การผจญภัยในป่าหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ลูกเสือยังเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่สอนให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้มีความรับผิดชอบ ใฝ่ดี และมีคุณธรรม กฎของลูกเสือ เป็นหลักการสำคัญที่ลูกเสือทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นคนดีที่สมบูรณ์
กฏของลูกเสือ
กฎของลูกเสือ เป็นหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิตของลูกเสือ โดยมุ่งเน้นถึงการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม กฎของลูกเสือมีทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิบัติตนต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม โดยเน้นย้ำถึงความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ความรับผิดชอบ และการช่วยเหลือผู้อื่น ลูกเสือทุกคนควรปฏิบัติตามกฎของลูกเสืออย่างเคร่งครัด เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีของสังคมต่อไป
กฎของลูกเสือสำรอง 2 ข้อ
ข้าสัญญาว่า
- ลูกเสือสำรองทำตามลูกเสือรุ่นพี่
- ลูกเสือสำรองไม่ทำตามใจตนเอง
กฎของลูกเสือสามัญ, ลูกเสือวิสามัญ, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ 10 ข้อ
ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
- ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
- ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
- ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
- ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
- ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
- ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
- ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
- ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
- ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
- ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
คติพจน์ของลูกเสือ
- ลูกเสือสำรอง : ทำดีที่สุด
- ลูกเสือสามัญ : จงเตรียมพร้อม
- ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ : มองไกล
- ลูกเสือวิสามัญ : บริการ
คำปฏิญาณของลูกเสือ
ลูกเสือสำรอง 2 ข้อ
ข้าสัญญาว่า
- ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
- ข้าจะยึดมั่นในกฎของลูกเสือสำรองและบำเพญประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกวัน
ลูกเสือสามัญ, ลูกเสือสามัญ, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่, ลูกเสือวิสามัญ 3 ข้อ
ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
- ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
- ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
- ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ
อธิบายกฏของลูกเสือ โดยละเอียด
กฎข้อ 1. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
ความหมายของการมีเกียรติ
การมีเกียรติ หมายถึง การที่บุคคลยึดมั่นในคุณธรรมและศีลธรรม กระทำตนให้ถูกต้อง เหมาะสม เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของผู้อื่น
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีเกียรติ
การเป็นลูกเสือที่มีเกียรติ มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต รับผิดชอบ อดทน เสียสละ และเป็นที่เชื่อถือของผู้อื่น
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีเกียรติ
ลูกเสือที่มีเกียรติ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- ยึดมั่นในคุณธรรมและศีลธรรม ปฏิบัติตนตามหลักคำสอนทางศาสนา เป็นคนดี มีคุณธรรม ละเว้นความชั่ว
- กระทำตนให้ถูกต้อง เหมาะสม พูดจาจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่โกหกหลอกลวง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
- เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของผู้อื่น รักษาคำพูด รักษาสัญญา ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีเกียรติ
- พูดจาสุภาพ อ่อนโยน รู้จักการถ่อมตน
- ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- รักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
- อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
- รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ลูกเสือที่มีเกียรติ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีเกียรติ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
กฎข้อ 2. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ความหมายของความจงรักภักดี
ความจงรักภักดี หมายถึง การที่บุคคลรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาสนา และชาติบ้านเมืองอย่างเต็มหัวใจ
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีความจงรักภักดี
การเป็นลูกเสือที่มีความจงรักภักดี มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นคนที่มีจิตสำนึกที่ดี รู้จักหน้าที่และรับผิดชอบต่อสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความจงรักภักดี
ลูกเสือที่มีความจงรักภักดี จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- รักชาติ รู้จักและเข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย รักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและประเพณีไทย
- รักศาสนา ปฏิบัติตนตามหลักคำสอนของศาสนา เป็นคนดี มีคุณธรรม ละเว้นความชั่ว
- รักพระมหากษัตริย์ เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความจงรักภักดี
- ร่วมกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ ของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
- ร่วมทำกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
- ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของบ้านเมือง
- รักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ลูกเสือที่มีความจงรักภักดี จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีความจงรักภักดี เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ
กฎข้อ 3. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ความหมายของการทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
การทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น หมายถึง การที่บุคคลกระทำการใดๆ ก็ตาม เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
การทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ช่วยเหลืองานบ้าน ช่วยเหลือเพื่อน ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือสัตว์ ฯลฯ
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีจิตอาสา
การเป็นลูกเสือที่มีจิตอาสา มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตสาธารณะ รู้จักเสียสละ ช่วยเหลือผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ลูกเสือที่มีจิตอาสา จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีจิตอาสา เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีจิตอาสา
ลูกเสือที่มีจิตอาสา จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น คิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น พยายามช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าผู้อื่นจะเดือดร้อนมากน้อยเพียงใด ลูกเสือที่มีจิตอาสาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ
- ไม่หวังสิ่งตอบแทน การทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น ควรกระทำด้วยใจบริสุทธิ์ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีจิตอาสา
- ช่วยเหลืองานบ้าน เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน ซักผ้า ฯลฯ
- ช่วยเหลือเพื่อน เช่น แบ่งปันสิ่งของ ช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน ฯลฯ
- ช่วยเหลือสังคม เช่น ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เช่น ทำความสะอาดชุมชน บริจาคสิ่งของ ฯลฯ
- ช่วยเหลือสัตว์ เช่น ดูแลสัตว์เลี้ยง ช่วยเหลือสัตว์จรจัด ฯลฯ
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีจิตอาสาได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น ช่วยเหลืองานบ้าน ช่วยเหลือเพื่อน ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ เช่น ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือสัตว์ ฯลฯ การทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 4. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสือทั่วโลก
ความหมายของการเป็นมิตรและพี่น้อง
- ความเป็นมิตร หมายถึง การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- ความเป็นพี่น้อง หมายถึง การมีความสัมพันธ์ที่ผูกพันกันแน่นแฟ้น เปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสายเลือด
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี
การเป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่กว้างขวาง รู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา หรือความแตกต่างอื่นๆ
ลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี
ลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- ปฏิบัติตนด้วยความสุภาพอ่อนโยน พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักการเคารพผู้อื่น
- ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา หรือความแตกต่างอื่นๆ ยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น และไม่ตัดสินผู้อื่นจากภายนอก
- พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยินดีช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคี
- ทักทายผู้อื่นด้วยความสุภาพ
- ช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน
- ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือความแตกต่างอื่นๆ
- เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีมิตรภาพและความสามัคคีได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น ทักทายผู้อื่นด้วยความสุภาพ ช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ เช่น ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือความแตกต่างอื่นๆ เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 5. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
ความหมายของความสุภาพเรียบร้อย
ความสุภาพเรียบร้อย หมายถึง การมีกิริยามารยาทที่งดงาม อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักกาลเทศะ เป็นที่ชื่นชมของผู้อื่น
ความสุภาพเรียบร้อย เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน เพราะเป็นพื้นฐานของสังคมที่ดีงาม ลูกเสือจึงควรปฏิบัติตนด้วยความสุภาพเรียบร้อย เพื่อให้เป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย
การเป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่อ่อนโยน รู้จักการเคารพผู้อื่น และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
ลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย
ลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- มีกิริยามารยาทที่งดงาม พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตน ยิ้มแย้มแจ่มใส
- รู้จักกาลเทศะ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
- ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่สร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อย
- ทักทายผู้อื่นด้วยความสุภาพ
- ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม
- แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความสุภาพเรียบร้อยได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น ทักทายผู้อื่นด้วยความสุภาพ ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ เช่น ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 6. ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ความหมายของความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ความเมตตากรุณาต่อสัตว์ หมายถึง การที่บุคคลมีความรักและเอ็นดูสัตว์ ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียนสัตว์
ความเมตตากรุณาต่อสัตว์ เป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นพื้นฐานของมนุษยธรรม ทุกคนควรปฏิบัติต่อสัตว์ด้วยความเมตตากรุณา เพื่อไม่ให้สัตว์ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
การเป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่อ่อนโยน รักสัตว์ และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ จะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียนสัตว์ ไม่ว่าสัตว์นั้นจะใหญ่หรือเล็ก ดุร้ายหรือเชื่องก็ตาม
- ช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทำร้าย สัตว์ที่บาดเจ็บ สัตว์จรจัด
- อนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ล่าสัตว์ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
- เลี้ยงสัตว์ด้วยความเมตตากรุณา ไม่ทำร้ายหรือทรมานสัตว์
- ช่วยเหลือสัตว์จรจัด เช่น เลี้ยงดู หาอาหารให้
- เข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม เช่น ปลูกต้นไม้ รณรงค์ให้เลิกล่าสัตว์
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียนสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ เช่น อนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 7. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
ความหมายของการเชื่อฟังและเคารพ
- การเชื่อฟัง หมายถึง การปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำชี้แนะของผู้อื่นด้วยความเต็มใจและตั้งใจ
- การเคารพ หมายถึง การยกย่อง ยกฐานะ หรือให้เกียรติผู้อื่น
การเชื่อฟังและเคารพ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน เพราะจะช่วยให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ
การเป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมให้เจริญก้าวหน้า ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ
ลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- เชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเต็มใจและตั้งใจ ไม่บิดพลิ้ว ไม่ดื้อรั้น
- เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ดูถูกหรือดูแคลนผู้อื่น
- ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพ
- ปฏิบัติตามคำสั่งของบิดามารดา เช่น ทำการบ้าน เก็บห้อง ทำงานบ้าน
- ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เช่น ปฏิบัติตามคำสั่งของครู อาจารย์ หรือผู้กำกับลูกเสือ
- เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น เช่น ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างตั้งใจ ไม่ขัดแย้ง
- ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคม เช่น ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ ไม่พูดจาหยาบคาย
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่เชื่อฟังและเคารพได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น เชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคม การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 8. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ความหมายของการมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
การมีใจร่าเริง หมายถึง การมีอารมณ์แจ่มใส ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก หมายถึง ไม่หวั่นไหวหรือท้อถอยต่ออุปสรรคหรือปัญหาที่พบเจอ
การมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เป็นสิ่งที่ดีงามและควรค่าแก่การส่งเสริม เพราะจะช่วยให้บุคคลสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
การเป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่เข้มแข็ง อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา
ลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- มีจิตใจที่เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี
- มีกำลังใจที่ดี ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือปัญหาที่พบเจอ
- มีความอดทน ไม่หวั่นไหวหรือท้อถอยต่อความยากลำบาก
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
- ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม
- ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
- อดทนต่อการฝึกฝนหรือการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือที่มีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน อดทนต่อการฝึกฝนหรือการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 9. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
ความหมายของผู้มัธยัสถ์
ผู้มัธยัสถ์ หมายถึง ผู้ที่รู้จักประหยัดทรัพย์ทั้งของตนและผู้อื่น รู้จักเก็บหอมรอมริบ สำหรับใช้บำรุงตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่นในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง
การรู้จักประหยัดทรัพย์ เป็นสิ่งที่ดีงามและควรค่าแก่การส่งเสริม เพราะจะช่วยให้บุคคลสามารถดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
การเป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์ มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่รู้จักคุณค่าของเงินทอง รู้จักใช้ทรัพย์สินอย่างคุ้มค่า ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ก่อหนี้สิน และรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
ลูกเสือที่เป็นผู้มัธยัสถ์ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
ลูกเสือที่เป็นผู้มัธยัสถ์ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- รู้จักวางแผนการใช้เงิน ก่อนที่จะใช้จ่ายอะไร ควรพิจารณาถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
- รู้จักอดออม ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่จำเป็น
- รู้จักเก็บออมเงิน สำหรับใช้ในยามจำเป็น
- รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
ตัวอย่างการปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
- วางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบ เช่น จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำเดือน
- อดออมเงินด้วยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งดซื้อของเล่นฟุ่มเฟือย
- เก็บออมเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น เช่น เก็บออมเงินไว้ซื้อของที่จำเป็น เช่น หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน
- ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น บริจาคเงินหรือสิ่งของให้กับผู้ยากไร้
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์ได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น วางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ อดออมเงิน เก็บออมเงิน และช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
กฎข้อ 10. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
ความหมายของลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
การประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี ประกอบด้วย
- กาย หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
- วาจา หมายถึง การพูดจาไพเราะ สุภาพ จริงใจ ไม่พูดโกหก ไม่พูดเพ้อเจ้อ
- ใจ หมายถึง การคิดดี ทำดี มีจิตใจเมตตากรุณา มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
การประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ เป็นสิ่งที่ดีงามและควรค่าแก่การส่งเสริม เพราะจะช่วยให้บุคคลสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ
ความสำคัญของการเป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
การเป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ มีความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม เพราะจะช่วยให้เยาวชนมีจิตใจที่บริสุทธิ์ งดงาม มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
ลูกเสือที่ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า ลูกเสือทุกคนจึงควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
ลูกเสือที่ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- กาย จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- แต่งกายสะอาดเรียบร้อยตามระเบียบ
- รักษาความสะอาดของสถานที่
- ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
- วาจา จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- พูดจาไพเราะ สุภาพ อ่อนหวาน
- พูดความจริง ไม่พูดโกหก
- พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์
- ใจ จะต้องปฏิบัติตนดังนี้
- มีจิตใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น
- มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
- คิดดี ทำดี ละเว้นความชั่ว
ตัวอย่างการปฏิบัติเพื่อเป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
- แต่งกายสะอาดเรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน ลูกเสือ
- เก็บขยะลงถังขยะ รักษาความสะอาดของโรงเรียนและชุมชน
- ช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังเดือดร้อน เช่น ช่วยเหลือเพื่อนที่อ่อนแอกว่า ช่วยเหลือเพื่อนที่ตกน้ำ
- พูดจาไพเราะ สุภาพ อ่อนหวาน เช่น พูดสวัสดี พูดขอบคุณ พูดขอโทษ
- พูดความจริง ไม่พูดโกหก เช่น ตอบคำถามครูด้วยความซื่อสัตย์
- พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น พูดให้กำลังใจผู้อื่น พูดให้ผู้อื่นเข้าใจ
- มีจิตใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น เช่น ช่วยเหลือสัตว์ที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือผู้ยากไร้
- มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เช่น แบ่งปันสิ่งของกับเพื่อน แบ่งปันความรู้กับเพื่อน
- คิดดี ทำดี ละเว้นความชั่ว เช่น คิดถึงผู้อื่นก่อนคิดถึงตนเอง ละเว้นการทะเลาะวิวาท
ลูกเสือทุกคนสามารถปฏิบัติตนเพื่อเป็นลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น แต่งกายสะอาดเรียบร้อย ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน พูดจาไพเราะ สุภาพ อ่อนหวาน การทำความดี นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว ยังช่วยให้ลูกเสือทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
บทสรุป
กฎของลูกเสือ ไม่ได้เป็นแค่กฎระเบียบ แต่เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ช่วยให้เด็กๆ เติบโตเป็นคนดีของสังคม ลูกเสือที่ปฏิบัติตามกฎของลูกเสืออย่างเคร่งครัด จะเป็นผู้ที่มีเกียรติเชื่อถือได้ มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น มีมิตรภาพและความสามัคคี มีความสุภาพเรียบร้อย มีเมตตากรุณาต่อสัตว์ และเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ ดังนั้น กฎของลูกเสือ จึงเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับเยาวชนที่จะนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
- กองลูกเสือแห่งชาติ. (2566). กฎของลูกเสือ. https://scouth.org/scout-law-oath/
- กองลูกเสือแห่งชาติ. (2566). คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ. https://scouth.org/scout-law-oath/
- วิทยาลัยลูกเสือแห่งชาติ. (2566). กฎของลูกเสือ: หลักการนำทางชีวิตลูกเสือ. https://scouth.org/scout-law-oath/
- โรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูน. (2562). คำปฏิญาณและกฏของลูกเสือ. http://www.chakkham.ac.th/~scout/web/index.php/2013-01-13-14-59-58
- โรงเรียนวัดเทพศิรินทร. (2566). กฎของลูกเสือ: ข้อคิดในการดำเนินชีวิต. https://www.sator4u.com/paper/784
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “10 กฎของลูกเสือ และคำปฏิญาณ พร้อมคำอธิบาย”