ในห้วงอำรพดนตรีไทยอันไพเราะ กลองแขกเปรียบเสมือนเสียงอันทรงพลังและหนักแน่น ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามประณีต ผสมผสานกับเสียงอันไพเราะและจังหวะที่เร้าใจ กลองแขกจึงทำหน้าที่ขับกล่อมบทเพลงไทยให้ไพเราะและบรรเทิงใจผู้ฟังได้เป็นอย่างดี กลองแขกใช้ในวงดนตรีไทยหลายประเภท เช่น ปี่พาทย์ มโหรส และเพลงพื้นบ้านต่างๆ
กลองแขก
กลองแขก เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี หน้ากลองทำจากหนัง ส่วนลำกลองใช้ไม้เนื้อแข็งขึ้นรูป บรรเลงกลองแขกด้วยการตีให้เกิดเสียงตามจังหวะ กลองแขกมีเสียงที่หนักแน่น ช่วยเพิ่มพลังให้กับจังหวะและสร้างบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ ส่วนมากใช้ในวงดนตรีไทยประกอบโขนและละครต่างๆ
กลองแขกมีรูปร่างยาวเป็นทรงกระบอก ขึ้นหนังสองข้างด้วยหนังลูกวัวหรือหนังแพะ หน้าใหญ่ กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร เรียกว่า หน้ารุ่ยหรือ “หน้ามัด” ส่วนหน้าเล็กกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร เรียกว่า หน้าต่านหรือ “หน้าตาด” ตัวกลองหรือหุ่นกลองสามารถทำขึ้นได้จากไม้หลายชนิดแต่โดยมากจะนิยมใช้ไม้เนื้อแข็งมาทำเป็นหุ่นกลอง เช่นไม้ชิงชัน ไม้มะริด ไม้พยุง กระพี้เขาควาย ขนุน สะเดา มะค่า มะพร้าว ตาล ก้ามปู เป็นต้น
การบรรเลงกลองแขก
กลองแขกเป็น เครื่องดนตรีประเภทตีของไทย การบรรเลงกลองแขกนิยมใช้สองฝามาตีกระทบกันให้เกิดเสียงตามจังหวะ เสียงอันทรงพลังของกลองแขกช่วยขับเน้นความหนักแน่นและเร้าใจให้กับดนตรีไทย ช่วยสร้างความตื่นเต้นและอรรถรสให้กับผู้ฟัง
บทบาทของกลองแขกในวงดนตรีไทย
กลองแขกมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะในวงมโหรสละครและวงดนตรีประกอบการแสดงต่างๆ เสียงอันหนักแน่นของกลองแขกช่วยเพิ่มพลังให้กับจังหวะและสร้างบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ นอกจากนี้กลองแขกยังใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงโขนและละครอีกด้วย
ปัจจุบันกลองแขกยังคงเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการดนตรีไทย ทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและรูปแบบร่วมสมัย กลองแขกเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถปรับประยุกต์ให้เข้ากับดนตรีหลากหลายแนว ทำให้กลองแขกกลายเป็นเครื่องดนตรีที่ขาดไม่ได้ในวงการดนตรีไทย
บทสรุป
กลองแขก มิใช่แค่เครื่องดนตรีธรรมดา แต่เป็นเครื่องดนตรีที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย เสียงอันทรงพลังและจังหวะที่เร้าใจของกลองแขกช่วยสร้างความตื่นเต้นและอรรถรสให้กับผู้ฟัง กลองแขกจึงเปรียบเสมือนทูตวัฒนธรรมไทยที่ช่วยเชื่อมโยงหัวใจคนทั่วโลกผ่านบทเพลงอันไพเราะและทรงคุณค่า
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “กลองแขก – เครื่องดนตรีไทย”