ทุกวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันสตรีไทย ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย ที่เปิดให้หญิงไทยออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของสตรีไทยในสังคม
วันสตรีไทย
ตรงกับทุกวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี
เนื่องจากในเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งมหามงคลสมัย ที่ปวงชนชาวไทยต่างก็ให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นเดือนเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม ประดุจแม่ของแผ่นดิน จึงได้เกิดการร่วมใจกันของภาครัฐและเอกชน องค์กรสตรีทั่วประเทศไทย ร่วมกันกำหนดให้เกิดวันสตรีไทยขึ้น เพื่อเป็นการผลักดันสิทธิและบทบาทของสตรีไทยในสังคมให้เทียบเท่ากัน เป็นการผลักดันกระบวนทัศน์ ความคิด ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสตรีไทย และภูมิปัญญา ที่เป็นของตนเองให้ผนึกกันก้าวไปในแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ เพื่อยกระดับ สถานภาพชีวิตของสตรีไทย และร่วมกันพัฒนาเพื่อความเจริญก้าวหน้า ของประเทศ
ทั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันล้นเกล้า จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระราชทานกำหนดให้วันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันสตรีไทย ตั้งแต่พุทธศักราช 2546 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีวันที่มีความสำคัญคล้ายกันคือ วันสตรีสากล ซึ่งตรงกับทุกวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี
สัญลักษณ์วันสตรีไทย
เน้นลักษณะเส้นสายที่อ่อนช้อย แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะไทย และความอ่อนหวานของสตรีไทย กึ่งกลางภาพแสดงรูปสตรีไทยในลักษณะที่เชิดหน้า ด้านข้างแสดงถึงความเข้มแข็ง ด้านข้างทัดดอกประจำยาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไทย แสดงถึงความอ่อนหวาน ที่มีอยู่ในสตรีไทย
ความหมายของสัญลักษณ์
รูปหน้าสตรีไทยซ้อนกันภายในวงกลม แสดงถึงการรวมพลังของสตรีไทยในเป็นหนึ่งเดียว ด้านบนปรากฎลายกนก แสดงให้เห็นถึงเกียรติคุณของชาติไทยที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่โบราณกาล
ด้านล่างปรากฎข้อความ “วันสตรีไทย” เป็นลักษณะตัวลายมือ แสดงถึงอิสระ และเสรีภาพในการกระทำ และความคิดของสตรีไทยในยุคปัจจุบัน
ความหมายสี
น้ำเงิน ขาว แดง แทนประเทศไทย สีทอง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
สัญลักษณ์วันสตรีไทยออกแบบโดย จักรพงศ์ บุญโยม ผู้ได้รับรางวัลชมเชย ในการประกวดการออกแบบตราสัญลักษณ์วันสตรีไทย 1 ส.ค 2546
ดอกไม้ประจำวันสตรีไทย
กล้วยไม้ แคทลียา ควีนสิริกิติ์ ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทย
ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551 สภาสตรีแห่งชาติฯได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพระราชทานดอกกล้วยไม้พระนาม แคทลียา ควีนสิริกิติ์ เพื่อใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทยสืบไปด้วย
ดอกแคทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นกล้วยไม้ลูกผสมระหว่าง Cattleya Bow Bells และ Cattleya O’ brieniana var. Alba ซึ่งบริษัท Black & Flory Ltd. ประเทศอังกฤษเป็นผู้ผสมขึ้นและจดทะเบียนชื่อพันธุ์ว่า Exquisite เมื่อปี พ.ศ. 2501 มีความสวยงามได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก The Royal Horticultural Society ประเทศอังกฤษ จึงได้มีการขอพระราชทานพระราชานุญาต อัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นชื่อ กล้วยไม้พันธุ์ดังกล่าวว่า แคทลียาควีนสิริกิติ์ ลักษณะทั่วไปเป็นกล้วยไม้สูง 20-40 ซม. ลำลูกกล้วยรูปทรงกระบอก ใบรูปขอบขนาน ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 1-4 ดอก สีขาวนวล กลีบรองดอกรูปรีแกมสามเหลี่ยม กลีบดอก 5 กลีบ มีกลีบปากแผ่กว้าง ขอบกลีบย่นเป็นคลื่น ตรงกลางกลีบมีแต้มสีเหลืองทองด้านใน เมื่อบานเต็มที่ขนาดผ่านศูนย์กลาง 12-14 ซม. มีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ฝักรูปทรงสามเหลี่ยม ออกดอกตลอดปี
พระราชดำรัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดงานโครงการรวมพลังสตรีไทย เทิดไท้องค์ราชินี และพระราชทานวันสตรีไทย ณ อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2546
“สตรีไทยในยุคปัจจุบัน มีความคิดที่ก้าวหน้า และทันสมัยมากขึ้น จึงมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ ในการพัฒนาประเทศ การสั่งสม ภูมิปัญญาของสตรีไทย ที่สืบเนื่องกันมานับแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็น ความ ภาคภูมิใจยิ่งของชาวไทย และการที่จะธำรงความภาคภูมิใจนี้ไว้ให้ยั่งยืน ย่อมเป็นหน้าที่ของสตรีไทยทุกคน ที่จะต้องช่วยกันรักษา และเชิดชูเอกลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้สืบทอดไปยังอนุชนรุ่นต่อไปโดยไม่ขาดสาย
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันสตรีไทย ข้าพเจ้าจึงของฝากความคิดเห็นว่า สตรีไทยมีหน้าที่สำคัญเบื้องต้น 4 ประการ คือ
ประการแรก พึงทำหน้าที่ “แม่” ให้สมบูรณ์ โดยทำให้ครอบครัวบังเกิดความรัก และความอบอุ่น มีความเข้าใจและไว้วางใจ ซึ่กงันและกัน แม่ควรเป็นที่ยึดมั่นของลูก เมื่อลูกเกิดปัญหาก็ช่วยแก้ไขด้วยความเมตตา และสอนให้รู้จักดำเนินชีวิตในทางที่ถูกที่ควร ถ้าสตรีไทยทำเช่นนี้ได้ เด็กไทยก็จะเติบโตเป็นพลเมืองดี และช่วยป้องกันปัญหาร้ายแรงต่าง ๆ ในสังคมไทย
ประการที่สอง พึงทำหน้าที่ของ “แม่บ้าน” ให้ดีโดยทำให้บ้านมีความน่าอยู่ เป็นที่พักพิงอันอบอุ่น ของสมาชิกในครอบครัว ช่วยเก็บออมและเพิ่มพูนทรัพย์สินให้ครอบครัว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนรอบข้างตามสมควร
ประการที่สาม พึง “รักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย” ผู้มีความนุ่มนวล อ่อนโยน สุภาพ เมตตา และยิ้มแย้มแจ่มใส รวมทั้งธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมไทยอันละเอียดประณีตให้เป็นที่ชื่นชมของนานาชาติตลอดไป
ประการที่สี่ พึง “ฝึกฝนตนเอง” ให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น ขยัน และอดทน มีความประยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย และรักษา ความสามัคคี ในหมู่คณะไว้ให้มั่นคง
หากสตรีไทยทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง 4 ประการ นี้ได้ ก็จะส่งผลให้ครอบครัวไทย สังคมไทย และประเทศชาติมีความสุข ความเจริญ นำไปสู่การพัฒนาด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง และสตรีไทยจักเป็นที่ยกย่อง ชื่นชมของสังคมโลกตลอดไป”
กิจกรรมในวันสตรีไทย
ปี 2547 สำหรับแนวทางการจัดกิจกรรมในส่วนกลาง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน จัดงานวันสตรีไทย ผนวกรวมกับการจัดงานสุดยอดหมู่บ้านอุตสาหกรรมและทอผ้าไทย ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2547 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ อิมเพ็ค เมืองทองธานี กิจกรรมสำคัญก์คือ การมอบรางวัลสตรีดีเด่น สื่อโฆษณาดีเด่น ส่งเสริมบทบาทแม่ การสัมมนาทางวิชาการ การจัดนิทรรศการ มหกรรมอาหารไทย ศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค เป็นต้น
ในส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติสตรีไทยหัวใจแกร่ง ขอความร่วมมือทุกจังหวัด โดยสำนักงานพัฒนาสังคม และ สวัสดิการจังหวัด ร่วมกับองค์กรสตรีระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล องค์กรปกครองท้องถิ่น ร่วมกันคัดเลือกสตรีที่เป็นผู้นำครอบครัว เนื่องจากสามีเสียชีวิต หย่าร้าง หรือถูกทอดทิ้ง ให้ดูแลครอบครัวตามลำพัง ประกอบอาชีพสุจริต ครอบครัวยากจน มีความอดทน มีมานะอุตสาหะ จังหวัดละ 5 ราย มอบเงินทุนประกอบอาชีพ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่สตรีผู้นำ ครอบครัวที่ยากจน โดยขอรับเงิน สนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาสังคม และสวัสดิการจังหวัด หรือเหล่ากาชาดจังหวัด ฯลฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส พระชนมายุครบ 72 พรรษา
ปี 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2555 การปาฐกถาพิเศษเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 80 พรรษา โดย ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ จากภาคีเครือข่าย และได้พระราชทานรางวัลสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2555 มีจำนวน 180 คน อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นางผุสชา โทณะวณิก สุขวัฒน์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด นางพัชรินทร์ ตัญจพัฒน์กุล กรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กและเยาวชน สตรีผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา นางศรินทร เมธีวัชรานนท์ กรรมการบริหารสมาคมหมู่บ้านเด็กฤดูร้อนนานาชาติ CISV และ นางทิพย์ อมาตยกุล นักธุรกิจสตรีตัวอย่าง
ปี 2556 กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับภาคีเครือข่ายการจัดงานวันสตรีไทยประจำปี 2556 มีกำหนดการปาฐกถาพิเศษ และมอบประกาศเกียรติคุณแก่สตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและแรงงานนอกระบบดีเด่น โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556 เวลา 11.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
สตรีไทยดีเด่น
นางผุสชา โทณะวณิก สุขวัฒน์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ สิ่งที่รู้สึกภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งคือการที่มีความรู้สึกว่าผู้ชายเป็นกำลังสำคัญ เราเติบโตมาเพราะคุณพ่อดูแลจริงๆ และเรามีความรักจากสามีที่คอยให้กำลังใจ แล้วก็มีลูกชาย ก็เลยคิดว่าในชีวิตนี้แม้จะเป็นผู้หญิง แต่ได้รับแรงสำคัญจากผู้ชายมาตลอด ฉะนั้นในวันนี้การก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้จึงเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจมากที่สุด และคิดว่าในโอกาสข้างหน้าจะรักษาทั้งความเป็นลูก ความเป็นแม่ และแม่บ้านที่ดี ให้เราเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคมต่อไป
‘ความเป็นไทยเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ดิฉันให้ความสำคัญกับภาษาไทยมาก จะเห็นได้ว่าภาษาไทยทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น ที่ผ่านมาได้ใช้ภาษาไทยในการเป็นพิธีกร ในการร้องเพลง ทุกวันนี้พยายามสอนน้องๆ อยู่เสมอว่าพยายามพูดภาษาไทยให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นสื่อ หรือคนที่จำเป็นต้องอยู่เบื้องหน้าให้คนอื่นมองเข้ามา เพราะถ้าเราไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจนแล้ว วันหนึ่งเราจะหายไป เนื่องจากว่าในอีกไม่กี่ปีเราจะเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ถ้าเราไม่สร้างความโดดเด่น ไม่สร้างความเป็นไทยให้คงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการแต่งกาย ประเทศไทยก็จะหายไป โดยส่วนตัวจึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก’ นางผุสชากล่าว
ด้าน นางพัชรินทร์ ตัญจพัฒน์กุล กล่าวว่า การประหยัดเป็นสิ่งที่สำคัญ ได้สอนลูกๆ และบริวารเสมอในเรื่องการประหยัด และหากเป็นแค่การบอกเขาอาจไม่เข้าใจ ตนก็จะบอกเขาไปด้วยว่าทำอย่างไร อย่างเช่นคนในบ้านใช้น้ำเปลือง ก็บอกกับเขาว่าในหลวงรับสั่งว่าน้ำคือชีวิต เราต้องช่วยกันประหยัดน้ำ พลังงานก็เช่นกัน ไม่ว่าจะไปที่ไหนที่ไม่ใช่บ้านของตน เช่น โรงแรม จะเปิดแอร์หรืออย่างอื่นทิ้งไว้ไม่ได้ เพราะโลกเราร้อนขึ้นทุกวันแล้ว ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามเราต้องช่วยกันประหยัด
นางศรินทร เมธีวัชรานนท์ กล่าวว่า ตนเองเป็นนักธุรกิจคนไทยที่ใส่ผ้าไหมทุกวัน และออกแบบเสื้อผ้าด้วยตนเองเสมอ ปกติผ้าไหมออกแบบไม่ดีจะเชย ก็พยายามหาแบบหาดีไซน์มาใส่เพื่อให้ไม่เชย ให้ดูทันสมัย จนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้วว่าใส่ผ้าไหมทุกวัน และในทุกๆ วัน ใช้ชีวิตตามพระราช เสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตั้งแต่การเป็นแม่ที่ดี ตนมีลูกชาย 4 คน จบการศึกษาจากต่างประเทศ แต่มาทำงานกับคุณแม่หมด แสดงได้ว่าลูกๆ เขารักคุณแม่ ส่วนการฝึกฝนตนเอง หัดเป็นผู้สูงวัยที่มีเฟซบุ๊ก มีอีเมล์ มีทุกอย่าง เรียนรู้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมตลอด ในการเลี้ยงลูกก็เช่นกัน จะต้องดูว่าลูกวัยไหน เราวัยไหน ต้องทำอย่างไรให้เข้าใจกัน
‘การเป็นคุณแม่จะทำให้ลูกอบอุ่นอย่างเดียวไม่พอ เราต้องเป็นแบบอย่างที่มีคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรมให้กับลูกๆ ด้วย ดิฉันสอนลูกเสมอ และเมื่อเราเป็นแม่บ้านที่มีคุณธรรมแล้วพ่อบ้านก็จะต้องฟังเราด้วยเช่นกัน’
นางทิพย์ อมาตยกุล กล่าวว่า ดีใจและภาคภูมิใจมากที่ได้รับตำแหน่งนี้ ในส่วนของความเป็นแม่จะอบรมสั่งสอนลูกเสมอ ว่าการจะให้คนอื่นยอมรับว่าเราเป็นคนดี ไม่ใช่แค่กับแม่เพียงคนเดียว แต่ลูกต้องทำกับทุกคน ให้ทุกคนเขาได้ประจักษ์ว่าเราเป็นคนดีจริงๆ จากการที่อบรมสั่งสอนลูกตลอดมา สิ่งหนึ่งที่ภูมิใจมากๆ คือ การที่วันหนึ่งลูกเดินเข้ามาหาแล้วบอกว่าขออนุญาตล้างเท้าขอขมาคุณแม่ นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้สอน แต่ลูกเป็น เอง ลูกๆ อาจบอกว่าคุณแม่เผด็จการ แต่ทุกอย่างที่สั่งสอนลูกไป เราทำเพื่อให้ลูกเป็นเด็กดี มีคุณธรรม เพราะต่อไปในอนาคตเขาต้องเป็นคนของสังคม ช่วยเหลืองานของสังคม
บทความนี้อนุญาตให้แชร์ต่อได้ แต่ต้องลงเครดิตในส่วนของที่มา และทำลิ๊งค์กลับมาที่ tewfree.com ด้วยนะครับ
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “วันสตรีไทย 1 สิงหาคม”