อักโกธะ: ความไม่โกรธ – ประตูสู่ความสงบสุข
อักโกธะ ในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท ความไม่พอใจ ความไม่พอใจต่อผู้อื่น เป็นความทุกข์อย่างหนึ่งที่เกิดจากกิเลส อัคโกธะอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในกายและใจ ทางกาย เช่น อาการเกร็ง อาการหน้าแดง อาการเหงื่อออก เป็นต้น ทางใจ เช่น ความคิดริษยา ความคิดอาฆาตพยาบาท เป็นต้น
อักโกธะเป็นคุณธรรมที่ควรละเว้น เพราะนำไปสู่ความทุกข์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ผู้ที่ฝึกฝนอักโกธะให้ลดลงหรือหมดไป จะทำให้จิตใจสงบ ไม่หงุดหงิด ไม่โมโหง่าย ส่งผลให้มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต
ความไม่โกรธเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่สำคัญของมนุษย์ มีความสำคัญต่อบุคคลและสังคมเป็นอย่างมาก ความไม่โกรธช่วยให้บุคคลมีจิตใจที่สงบนิ่ง ปราศจากความทุกข์ ความกังวล ส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดี และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข
ความไม่โกรธยังมีความสำคัญต่อสังคมเป็นอย่างมาก สังคมที่เต็มไปด้วยความไม่โกรธ ย่อมเป็นสังคมที่สงบสุข ร่มเย็น ปราศจากความรุนแรงและความขัดแย้ง ส่งผลให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้า
ความสำคัญของอักโกธะ
ความไม่โกรธมีความสำคัญต่อบุคคลและสังคมเป็นอย่างมาก ดังนี้
- ต่อบุคคล ความไม่โกรธช่วยให้บุคคลมีจิตใจที่สงบสุข ไม่เครียด ไม่วิตกกังวล ส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพกายแข็งแรง และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น
- ต่อสังคม ความไม่โกรธช่วยให้สังคมเกิดความสงบสุข ร่มเย็น ปราศจากความขัดแย้ง ส่งผลให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้าและมีความมั่นคง
ตัวอย่างของความไม่โกรธ
ตัวอย่างของความไม่โกรธในชีวิตประจำวัน ได้แก่
- การไม่โกรธหรือโมโหเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
- การให้อภัยผู้อื่นที่ทำผิดพลาดต่อเรา
- การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
อักโกธะในชีวิตประจำวัน
ทุกคนสามารถฝึกฝนความไม่โกรธได้ ดังนี้
- ฝึกหายใจลึกๆ ช้าๆ เมื่อรู้สึกโกรธหรือโมโห
- พยายามมองเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยสติและปัญญา ไม่ปล่อยให้อารมณ์นำพา
- ให้อภัยผู้อื่นที่ทำให้เราโกรธหรือโมโห
อักโกธะในทศพิธราชธรรม
ในทศพิธราชธรรม หลักธรรมอันทรงคุณค่าที่พระมหากษัตริย์พึงมีนั้น หนึ่งในธรรมที่สำคัญยิ่งคือ “อักโกธะ” ซึ่งหมายถึง ความไม่โกรธ หมายถึง การปฏิบัติตนด้วยความใจเย็น ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ฉุนเฉียว อักโกธะเป็นคุณธรรมที่ช่วยให้บุคคลสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข ไม่วุ่นวายกับอารมณ์
อักโกธะ หมายถึง ความไม่โกรธ ทรงมีพระกริยาที่ไม่โกรธโดยวิสัย มิใช่เหตุที่ควรโกรธ แม้มีเหตุที่ให้ทรงพระพิโรธ แต่ทรงข่มเสียให้อันตรธานสงบระงับไป ด้วยทรงมีพระเมตตาอยู่เสมอ ไม่ทรงปรารถนาจะก่อภัย ก่อเวรแก่ผู้ใด
ตัวอย่างความไม่โกรธที่ทรงคุณค่า
ในประวัติศาสตร์ไทยมีบุคคลมากมายที่แสดงถึงความไม่โกรธอย่างโดดเด่น ได้แก่
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงไม่ทรงโกรธเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และทรงปกครองประเทศด้วยความเมตตากรุณา
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงไม่ทรงโกรธเมื่อข้าศึกทำผิด และทรงให้อภัยข้าศึกเสมอ
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงไม่ทรงโกรธเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ด้วยความเมตตา
ความไม่โกรธของบุคคลเหล่านี้ เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังให้ร่วมกันสร้างสังคมที่ดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
ถาม: อักโกธะต้องไม่โกรธกับทุกคนหรือไม่
อักโกธะไม่จำเป็นต้องไม่โกรธกับทุกคน แต่ควรพยายามไม่โกรธหรือโมโหโดยไม่จำเป็น เพราะความโกรธจะส่งผลเสียต่อทั้งตัวเองและผู้ออื่น
ถาม: อักโกธะจะทำให้เราเสียเปรียบหรือไม่
อักโกธะจะไม่ทำให้เราเสียเปรียบ แต่กลับทำให้เราได้เปรียบ เพราะความไม่โกรธจะช่วยให้เรามีสติและปัญญาในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
ถาม: อักโกธะจะทำให้เราดูอ่อนแอหรือไม่
ความไม่โกรธไม่ได้ทำให้เราอ่อนแอ แต่กลับทำให้เราดูเข้มแข็งขึ้น เพราะความไม่โกรธแสดงถึงการมีสติและการควบคุมอารมณ์ได้ดี
บทสรุป
ความไม่โกรธเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่ทุกคนพึงมี การฝึกฝนความไม่โกรธจะช่วยให้เราเป็นคนที่มีจิตใจที่สงบสุข เป็นที่รักและเคารพของผู้อื่น และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันฝึกฝนความไม่โกรธ เพื่อสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา และความสุข
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “อักโกธะ (ความไม่โกรธ) หลักธรรมพระพุทธศาสนา”