ท่ามกลางท่วงทำนองอันไพเราะของดนตรีไทย เครื่องดนตรีประเภทตีเปรียบเสมือนหัวใจที่ขับเคลื่อนให้เกิดจังหวะและลีลาที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ฟัง เครื่องดนตรีเหล่านี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยเสียงที่ชัดเจนและการบรรเลงที่ประณีตบรรจง มอบความรู้สึกหลากหลายตั้งแต่ความสดใสร่าเริงจนถึงความสงบเยือกเย็น นำพาผู้ฟังเข้าสู่โลกแห่งดนตรีอันน่าอัศจรรย์
เครื่องดนตรีไทยประเภทตี
เครื่องดนตรีไทยประเภทตี คือกลุ่มเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการตี เป็นเครื่องดนตรีประเภทที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จักใช้ เป็นเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญต่อดนตรีไทยเป็นอย่างมาก ทำหน้าที่สร้างจังหวะและลีลาให้กับบทเพลง ช่วยให้บทเพลงมีความไพเราะและน่าสนใจยิ่งขึ้น ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและงานเฉลิมฉลองต่างๆ
ประเภทของเครื่องตี ดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยประเภทตีสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อย ได้แก่
- เครื่องตีทำด้วยไม้
- เครื่องตีทำด้วยโลหะ
- เครื่องตีที่ทำด้วยหนัง
เราจะมาอธิบายถึงเครื่องตีดนตรีไทย ประเภทต่างๆ กันอย่างละเอียด ในบทความนี้นะครับ
1. เครื่องตีทำด้วยไม้
เครื่องตีไม้ คือ เครื่องดนตรีไทยที่ทำจากไม้ ได้แก่ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ระนาดเอกมโหรี ระนาดทุ้มมโหรี ระนาดแก้ว กรับคู่ ฯลฯ เครื่องตีไม้เป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงสูงชัดเจน มักใช้บรรเลงทำนองเพลง ได้แก่
ระนาดเอก
ระนาดเอก เป็นระนาดที่มีเสียงสูงที่สุดในบรรดาระนาดทั้งหมด มักใช้บรรเลงเป็นผู้นำวง
ระนาดเอก เป็นเครื่องดนตรีประเภทตี ทำจากไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่ง เช่น ไม้มะค่า ไม้ท่อน และไม้ประดู่ โดยนำไม้มาตัดเป็นแท่งรูปร่างยาวสี่เหลี่ยม ขนาดไล่เลี่ยกันจากใหญ่ไปเล็ก เรียงซ้อนกันตามลำดับบนโครงไม้ จากนั้นเจาะรูตรงกลางแท่งไม้แต่ละแท่งเพื่อร้อยเชือกให้ติดกับไม้หลัง ส่วนปลายแท่งไม้จะถ่วงด้วยตะกั่วผสมขี้ผึ้ง เพื่อให้เกิดเสียงทุ้มต่ำและกังวาน
ระนาดเอกเป็นเครื่องดนตรีสำคัญในวงดนตรีไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำวง ช่วยกำหนดจังหวะและลีลาของบทเพลง เสียงทุ้มต่ำของระนาดเอกสร้างความกลมกลืนให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ และช่วยขับเน้นอารมณ์ของบทเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ระนาดเอกยังใช้บรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ได้อย่างไพเราะ
ระนาดทุ้ม
ระนาดทุ้ม เป็นระนาดที่มีเสียงทุ้มต่ำที่สุดในบรรดาระนาดทั้งหมด มักใช้บรรเลงประกอบจังหวะ
ระนาดทุ้มเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีเช่นเดียวกับระนาดเอก ทำจากไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่ง เช่น ไม้มะค่า ไม้ท่อน และไม้ประดู่ โดยนำไม้มาตัดเป็นแท่งรูปร่างยาวสี่เหลี่ยม ขนาดไล่เลี่ยกันจากใหญ่ไปเล็ก เรียงซ้อนกันตามลำดับบนโครงไม้ จากนั้นเจาะรูตรงกลางแท่งไม้แต่ละแท่งเพื่อร้อยเชือกให้ติดกับไม้หลัง ส่วนปลายแท่งไม้จะถ่วงด้วยตะกั่วผสมขี้ผึ้ง เพื่อให้เกิดเสียงทุ้มต่ำและกังวาน
การบรรเลงระนาดทุ้มใช้ไม้ตีชนิดไม้เนื้ออ่อนเช่นเดียวกับระนาดเอก ผู้บรรเลงจะนั่งหรือยืนบรรเลงตามความถนัด โดยใช้ไม้ตีกระทบไม้ระนาดแต่ละแท่งตามโน้ตเพลง โดยมีเทคนิคการตีที่คล้ายกับการบรรเลงระนาดเอก แต่เนื่องจากระนาดทุ้มมีเสียงทุ้มต่ำกว่า จึงต้องใช้แรงในการตีมากกว่าระนาดเอก
ระนาดเอกเหล็ก
ระนาดเอกเหล็ก เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี อันมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยเสียงไพเราะกังวาน สร้างสรรค์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีความแตกต่างจากระนาดเอกไม้ตรงที่ลูกระนาดทำจากเหล็ก แทนที่จะเป็นไม้ ทำให้เกิดเสียงสูงกว่าระนาดเอกไม้
การบรรเลงระนาดเอกเหล็ก ต้องอาศัยความชำนาญและความแม่นยำในการตี เพื่อให้เกิดเสียงที่นุ่มนวล สม่ำเสมอและไพเราะ เสียงของระนาดเอกเหล็ก มักถูกนำมาใช้บรรเลงทำนองเพลงไทย ช่วยสร้างความไพเราะและน่าสนใจให้กับบทเพลง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอารมณ์ของบทเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ระนาดเอกเหล็ก เป็นเครื่องดนตรีที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยมาช้านาน เสียงไพเราะกังวานและเทคนิคการบรรเลงที่ประณีตบรรจงของระนาดเอกเหล็ก สะท้อนถึงภูมิปัญญาและความช่างคิดสร้างสรรค์ของคนไทยอย่างแท้จริง การเรียนรู้และอนุรักษ์เครื่องดนตรีชิ้นนี้ไว้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เสียงอันไพเราะของระนาดเอกเหล็กยังคงขับกล่อมใจผู้ฟังรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่อไป
กรับคู่
กรับคู่ เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ทำจากไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่ง เช่น ไม้มะค่า ไม้ท่อน และไม้ประดู่ โดยนำไม้มาตัดเป็นแท่งรูปร่างยาวสี่เหลี่ยม ขนาดไล่เลี่ยกันจากใหญ่ไปเล็ก เรียงซ้อนกันตามลำดับบนโครงไม้ จากนั้นเจาะรูตรงกลางแท่งไม้แต่ละแท่งเพื่อร้อยเชือกให้ติดกับไม้หลัง ส่วนปลายแท่งไม้จะถ่วงด้วยตะกั่วผสมขี้ผึ้ง เพื่อให้เกิดเสียงทุ้มต่ำและกังวาน
กรับคู่ มีเสียงสูงชัดเจน ใช้บรรเลงทำนองเพลง ผู้บรรเลงจะนั่งหรือยืนบรรเลงตามความถนัด โดยใช้สองมือตีที่แผ่นไม้ทั้งสองข้างสลับกันไปมาตามจังหวะของบทเพลง การบรรเลงกรับคู่ต้องอาศัยความชำนาญและความแม่นยำในการตี เพื่อให้เกิดเสียงที่นุ่มนวลและชัดเจน
กรับคู่ เป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในวงดนตรีไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำวง ช่วยกำหนดจังหวะและลีลาของบทเพลง เสียงสูงชัดเจนของกรับคู่ช่วยสร้างความสดใสและรื่นเริงให้กับบทเพลง นอกจากนี้กรับคู่ยังใช้บรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ได้อย่างไพเราะ
อังกะลุง
เอ่ยชื่อ “อังกะลุง” หลายคนคงนึกถึงเสียงดนตรีใสร่า สดชื่น ใช่แล้ว! อังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีชนิดหนึ่ง ทำจากลำไม้ไผ่ ตัดแบ่งเป็นท่อนความยาวต่างกัน ขึ้นรูปให้กลมมน ปรับแต่งจนได้เสียงสูง-ต่ำ ตามขนาดลำไม้
เอกลักษณ์สำคัญของอังกะลุงอยู่ที่วิธีเล่น ไม่ต้องดีดสีหรือเป่า เพียงแค่เขย่าเบา ๆ ให้กระบอกไม้กระทบกับราวไม้ ก็เกิดเสียงกังวานไพเราะ เสน่ห์แห่งอังกะลุงไม่ได้อยู่แค่เสียงเท่านั้น ยังอยู่ที่การเล่นร่วมกันเป็นวง วงอังกะลุงมักมีผู้เล่นอย่างน้อย 7 คน แต่ละคนถืออังกะลุง 1-2 คู่ คู่หนึ่งประกอบด้วยไม้ไผ่ 2 ท่อน ให้เสียงเดียวกัน ทำให้เล่นเพลงได้อย่างกลมกลืน
เสียงอันไพเราะของอังกะลุง มีทั้งทำนองหลัก บรรเลงท่อนร้อง และเสียงประสานเข้าเสริม เสียงทุ้มต่ำจากกระบอกใหญ่ เสียงกลาง ๆ จากกระบอกกลาง และเสียงสูงใสจากกระบอกเล็ก เมื่อผสมผสานกันอย่างลงตัว สร้างสรรค์บทเพลงได้หลากหลาย ทั้งเพลงไทย เพลงสากล เพลงพื้นบ้าน แม้กระทั่งเพลงสมัยใหม่
เดิมทีอังกะลุงมาจากอินโดนีเซีย แต่หลวงประดิษฐ์ไพเราะ นำเข้ามาสู่เมืองไทยเมื่อราว พ.ศ. 2450 เสียงดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้อังกะลุงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอังกะลุงไม่ได้อยู่แค่ในวงดนตรี ยังพบในโรงเรียน วัด ชุมชน ต่างร่วมสืบทอดเสียงไม้ไผ่แห่งความสามัคคี ส่งผ่านวัฒนธรรม ให้เสียงอังกะลุงดังก้องกังวานไปอีกนานแสนนาน
2. เครื่องเครื่องตีทำด้วยโลหะ
เครื่องตีทำด้วยโลหะ คือ เครื่องดนตรีไทยที่ทำจากโลหะ มักเป็นทองเหลือง ได้แก่ ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ฆ้องมอญ ฆ้องโหม่ง ฆ้องจิ๋ว ฯลฯ เครื่องตีทำด้วยโลหะเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงทุ้มต่ำ มักใช้บรรเลงประกอบจังหวะและสร้างบรรยากาศ ได้แก่
ฆ้องวงใหญ่
ฆ้องวงใหญ่ เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ทำจากทองเหลืองหรือโลหะผสมอื่นๆ มีเสียงทุ้มต่ำและกังวาน ใช้บรรเลงทำนองเพลงและประกอบจังหวะ ฆ้องวงใหญ่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนบทเพลงไทย ช่วยสร้างความสมดุลและกลมกลืนให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ และช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับบทเพลง ทั้งความรู้สึกสงบเยือกเย็น ความขึงขังตื่นเต้น และความโศกเศร้า
ฆ้องวงใหญ่มีลักษณะเด่นที่เสียงทุ้มต่ำและกังวานอันเป็นเอกลักษณ์ เสียงของฆ้องวงใหญ่สามารถแผ่ไกลได้ไกลและคงความชัดเจน ทำให้เหมาะสำหรับการบรรเลงในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น การแสดงบนเวที การแห่ และการบรรเลงในงานพิธีต่างๆ
ฆ้องวงใหญ่เป็นเครื่องดนตรีหลักในวงดนตรีไทย ทำหน้าที่เป็นผู้นำวง ช่วยกำหนดจังหวะและลีลาของบทเพลง เสียงทุ้มต่ำและกังวานของฆ้องวงใหญ่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ และช่วยขับเน้นอารมณ์ของบทเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ฆ้องวงใหญ่ยังใช้บรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ได้อย่างไพเราะ
ฆ้องวงเล็ก
ฆ้องวงเล็ก เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ทำจากทองเหลืองหรือโลหะผสมอื่นๆ มีเสียงสูงชัดเจนและกังวาน ใช้บรรเลงทำนองเพลงและประกอบจังหวะ ฆ้องวงเล็กมีบทบาทสำคัญในการสร้างความไพเราะและน่าสนใจให้กับบทเพลงไทย เสียงสูงชัดเจนของฆ้องวงเล็กช่วยสร้างบรรยากาศอันรื่นเริงและครื้นเครง ช่วยขับเน้นอารมณ์ของบทเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยเติมเต็มความสมดุลให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ
ฆ้องวงเล็กมีลักษณะเด่นที่เสียงสูงชัดเจนและกังวาน เสียงของฆ้องวงเล็กสามารถแผ่ไกลได้ในระยะปานกลาง ทำให้เหมาะสำหรับการบรรเลงในพื้นที่ขนาดเล็กและกลาง เช่น การแสดงในห้องดนตรี การบรรเลงในงานเลี้ยงสังสรรค์ และการบรรเลงประกอบการแสดงละคร
ฆ้องวงเล็กเป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย ทำหน้าที่บรรเลงทำนองเพลงและประกอบจังหวะ เสียงสูงชัดเจนและกังวานของฆ้องวงเล็กช่วยสร้างความไพเราะและน่าสนใจให้กับบทเพลง ช่วยขับเน้นอารมณ์ของบทเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยเติมเต็มความสมดุลให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ
ฉิ่ง
ฉิ่ง เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ทำจากทองเหลือง หล่อหนา ปากผายกลม 1 ชุด มี 2 ฝา ฉิ่งมี 2 ชนิดคือ ฉิ่งสำหรับวงปี่พาทย์ และ ฉิ่งที่ใช้สำหรับวงเครื่องสายและวงมโหรี ฉิ่งสำหรับวงปี่พาทย์มีขนาดที่วัดผ่านศูนย์กลาง จากขอบข้างหนึ่งไปสุดขอบอีกข้างหนึ่ง กว้างประมาณ 6 – 6.5 ซม เจาะรูตรงกลางสำหรับร้อยเชือก เพื่อให้จับสะดวกขณะตี ส่วนฉิ่งสำหรับวงเครื่องสายและวงมโหรีนั้น มีขนาดเล็กกว่า วัดผ่านศูนย์กลางได้ขนาดประมาณ 5.5 ซม
ฉิ่ง มีเสียงสูงแหลม สดใส และกังวาน เกิดจากการกระทบกันระหว่างฝาฉิ่งทั้งสอง การบรรเลงฉิ่งต้องอาศัยความแม่นยำและความชำนาญในการตี เพื่อให้เกิดเสียงที่ไพเราะและสม่ำเสมอ ฉิ่งมักถูกนำมาใช้บรรเลงประกอบจังหวะและสร้างความคึกคักให้กับบทเพลงไทย นอกจากนี้ฉิ่งยังสามารถใช้บรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ได้อย่างไพเราะ
ฉิ่ง เป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย ช่วยสร้างความสมดุลและกลมกลืนให้กับเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ และช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับบทเพลง ทั้งความรู้สึกสดใส ครื้นเครง เร้าใจ และรื่นรมย์ เสียงอันไพเราะของฉิ่งยังคงเป็นเอกลักษณ์ของบทเพลงไทยและสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังมาช้านาน
ฉาบ
ฉาบ เครื่องดนตรีประเภทตีที่สร้างจังหวะและสีสันให้กับบรรเลงขับขาน ผลิตจากโลหะหล่อให้บาง มี 2 ขนาด ได้แก่ ฉาบเล็กและฉาบใหญ่ ฉาบเล็กมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12-14 เซนติเมตร ส่วนฉาบใหญ่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 24-26 เซนติเมตร การบรรเลงใช้สองฝามาตีกระทบกันให้เกิดเสียงตามจังหวะ เสียงอันทรงพลังของฉาบช่วยขับเน้นความหนักแน่นและเร้าใจให้กับดนตรีไทย ช่วยสร้างความตื่นเต้นและอรรถรสให้กับผู้ฟัง
ฉาบมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะในวงมโหรสละครและวงดนตรีประกอบการแสดงต่างๆ เสียงอันหนักแน่นของฉาบช่วยเพิ่มพลังให้กับจังหวะและสร้างบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ นอกจากนี้ฉาบยังใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงโขนและละครอีกด้วย
3. เครื่องตีที่ทำด้วยหนัง
เครื่องตีหนัง คือ เครื่องดนตรีไทยที่ทำจากหนังสัตว์ ได้แก่ ตะโพน กลองตะโพน กลอง ฯลฯ เครื่องตีหนังเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงทุ้ม มักใช้บรรเลงประกอบจังหวะและสร้างบรรยากาศ ได้แก่
ตะโพน
ตะโพน ถือเป็นเครื่องดนตรีที่ทำหน้าที่สำคัญในการขับจังหวะและสร้างสีสันให้กับบทเพลง ตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประเภทขึงหนัง มี 2 หน้า โดยหน้าใหญ่เรียกว่า หน้าเท่ง และหน้าเล็กเรียกว่า หน้ามัด ตัวกลองทำจากไม้สักหรือไม้ขนุน ขึ้นรูปเป็นทรงกระบอกตรงกลาง ขุดภายในให้เป็นโพรงทะลุถึงกัน แล้วขึงหนังวัวหรือหนังกระบือทั้งสองด้าน
การบรรเลงตะโพนใช้ฝ่ามือซ้ายขวาตีได้ทั้งสองหน้า ทั้งหน้าเท่งและหน้ามัด เสียงที่เกิดขึ้นจากการตีตะโพนจะแตกต่างกันตามตำแหน่งที่ตีและแรงที่ใช้ หน้าเท่งจะให้เสียงทุ้มนุ่ม ส่วนหน้ามัดจะให้เสียงแหลมสดใส เสียงของตะโพนช่วยสร้างจังหวะและเสริมสร้างความเร้าใจให้กับดนตรีไทย
ตะโพนมีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะในวงปี่พาทย์ ตะโพนทำหน้าที่เป็นเครื่องกำกับจังหวะหลัก ช่วยกำหนดทิศทางและความเร็วของบทเพลง นอกจากนี้ ตะโพนยังใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงต่างๆ เช่น โขน รำไทย และการละเล่นพื้นบ้าน
กลองตะโพน
กลองตะโพนถือเป็นเครื่องดนตรีที่ขาดไม่ได้ ด้วยบทบาทสำคัญในการขับจังหวะและสร้างสีสันให้กับบทเพลง กลองตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประเภทขึงหนังขนาดใหญ่ ประกอบด้วยกลองสองลูกวางคู่กัน ลูกแรกเรียกว่า กลองทัด มีขนาดใหญ่กว่า ให้เสียงต่ำนุ่ม ส่วนลูกที่สองเรียกว่า กลองเล็ก มีขนาดเล็กกว่า ให้เสียงสูงสดใส
การบรรเลงกลองตะโพนใช้ไม้ตี 2 คู่ โดยตีกลองทัดด้วยไม้ใหญ่ และตีกลองเล็กด้วยไม้เล็ก เสียงที่เกิดขึ้นจากการตีกลองตะโพนจะแตกต่างกันตามตำแหน่งที่ตีและแรงที่ใช้ การตีกลองตะโพนอย่างถูกวิธีจะช่วยสร้างจังหวะที่หนักแน่น สม่ำเสมอ และเร้าใจ
กลองตะโพนมีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะในวงปี่พาทย์ กลองตะโพนทำหน้าที่เป็นเครื่องกำกับจังหวะหลัก ช่วยกำหนดทิศทางและความเร็วของบทเพลง นอกจากนี้ กลองตะโพนยังใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงต่างๆ เช่น โขน รำไทย และการละเล่นพื้นบ้าน
โทนมโหรี
โทนมโหรี เป็นเครื่องดนตรีประเภทขึงหนังที่มีลักษณะคล้ายกลอง แต่มีขนาดเล็กกว่าและขึงหนังเพียงด้านเดียว ตัวกลองทำจากดินเผาหรือไม้ขึ้นรูปเป็นทรงกลม ขึ้นหนังด้วยหนังลูกวัว หนังแพะ หนังงูเหลือม หรือหนังงูงวงช้าง ส่วนสายโยงเร่งเสียงทำจากหวายผ่าเหลาหรือไหมฟั่นเป็นเกลียว
การบรรเลงโทนมโหรีใช้ไม้ตี 1 คู่ โดยตีบริเวณหน้าหนังและขอบหนังตามจังหวะ เสียงที่เกิดขึ้นจากการตีโทนมโหรีจะแตกต่างกันตามตำแหน่งที่ตีและแรงที่ใช้ หน้าหนังจะให้เสียงทุ้มนุ่ม ส่วนขอบหนังจะให้เสียงสูงสดใส เสียงของโทนมโหรีช่วยสร้างบรรยากาศที่เรียบง่าย สงบเยือกเย็น และขับเน้นความลึกซึ้งของดนตรีไทย
โทนมโหรีมักใช้ในการบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีประเภทตีอื่นๆ เช่น รำมะนา ฉาบ และฆ้อง โดยเฉพาะในวงมโหรสละครซึ่งเป็นวงดนตรีที่นิยมใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงโขนและละคร อย่างไรก็ตาม โทนมโหรีก็สามารถนำมาบรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงประสานกับเครื่องดนตรีอื่นๆ ได้เช่นกัน
รำมะนา
รำมะนา เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีที่มีลักษณะคล้ายกลองเล็กๆ ทำจากไม้ท่อนกลึงเป็นวงกลม ปิดหน้าด้วยหนังวัว หนังแพะ หรือหนังหมู โดยหนังด้านหนึ่งจะตึงกว่าอีกด้านหนึ่ง
การบรรเลงรำมะนาใช้ฝ่ามือตีบริเวณหน้าหนังทั้งสองด้าน เสียงที่เกิดขึ้นจากการตีรำมะนาจะแตกต่างกันตามตำแหน่งที่ตีและแรงที่ใช้ หน้าหนังด้านที่ตึงกว่าจะให้เสียงสูงสดใส ส่วนหน้าหนังด้านที่หย่อนกว่าจะให้เสียงทุ้มนุ่ม เสียงของรำมะนาช่วยสร้างจังหวะที่กระชับ เร้าใจ และช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับดนตรีไทย
รำมะนาพบได้ในวงดนตรีไทยหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นวงมโหรสละคร วงปี่พาทย์ และวงดนตรีประกอบการแสดงต่างๆ รำมะนาทำหน้าที่เป็นเครื่องกำกับจังหวะรอง ช่วยเติมเต็มจังหวะและสร้างความสมดุลให้กับวงดนตรี นอกจากนี้ รำมะนายังสามารถใช้ในการบรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงประสานกับเครื่องดนตรีอื่นๆ ได้อีกด้วย
กลองแขก
กลองแขก มีรูปร่างยาวเป็นทรงกระบอก ขึ้นหนังสองข้างด้วยหนังลูกวัวหรือหนังแพะ หน้าใหญ่ กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร เรียกว่า หน้ารุ่ยหรือ “หน้ามัด” ส่วนหน้าเล็กกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร เรียกว่า หน้าต่านหรือ “หน้าตาด” ตัวกลองหรือหุ่นกลองสามารถทำขึ้นได้จากไม้หลายชนิดแต่โดยมากจะนิยมใช้ไม้เนื้อแข็งมาทำเป็นหุ่นกลอง เช่นไม้ชิงชัน ไม้มะริด ไม้พยุง กระพี้เขาควาย ขนุน สะเดา มะค่า มะพร้าว ตาล ก้ามปู เป็นต้น
การบรรเลงกลองแขกนิยมใช้สองฝามาตีกระทบกันให้เกิดเสียงตามจังหวะ เสียงอันทรงพลังของกลองแขกช่วยขับเน้นความหนักแน่นและเร้าใจให้กับดนตรีไทย ช่วยสร้างความตื่นเต้นและอรรถรสให้กับผู้ฟัง
กลองแขกมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะในวงมโหรสละครและวงดนตรีประกอบการแสดงต่างๆ เสียงอันหนักแน่นของกลองแขกช่วยเพิ่มพลังให้กับจังหวะและสร้างบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ นอกจากนี้กลองแขกยังใช้ในการบรรเลงประกอบการแสดงโขนและละครอีกด้วย
การแบ่งประเภทเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ด้วยจำนวนหน้าที่ตี
นอกจากการแบ่งประเภทเครื่องดนตรีไทยประเภทตี ด้วยวัสดุที่ทำแล้ว ยังสามารถแบ่งประเภทได้ด้วยจำนวนหน้าที่ตีได้ด้วยเช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่
- เครื่องตีหน้าเดียว คือ เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงเพียงด้านเดียว ได้แก่ ระนาด ฆ้อง ฉิ่ง ฉาบ ฯลฯ
- เครื่องตีสองหน้า คือ เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงทั้งสองด้าน ได้แก่ กลอง ตะโพน เปิงมาง ฯลฯ
เครื่องดนตรีไทยประเภทตีมีบทบาทสำคัญในดนตรีไทยเป็นอย่างมาก โดยทำหน้าที่สร้างจังหวะและลีลาให้กับบทเพลง ช่วยให้บทเพลงมีความไพเราะและน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและงานเฉลิมฉลองต่างๆ อีกด้วย
เครื่องตีหน้าเดียว
เครื่องตีหน้าเดียวเป็นกลุ่มเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในดนตรีไทย แบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ ดังนี้
- เครื่องตีไม้ คือ เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ ได้แก่ ระนาด ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฯลฯ
- เครื่องตีทองเหลือง คือ เครื่องดนตรีที่ทำจากทองเหลือง ได้แก่ ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ฆ้องมอญ ฆ้องโหม่ง ฯลฯ
- เครื่องตีหนัง คือ เครื่องดนตรีที่ทำจากหนังสัตว์ ได้แก่ ฉิ่ง ฉาบ เปิงมาง ฯลฯ
เครื่องตีสองหน้า
เครื่องตีสองหน้าเป็นกลุ่มเครื่องดนตรีที่มีเสียงทุ้มต่ำ แบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ ดังนี้
- เครื่องตีหนัง คือ เครื่องดนตรีที่ทำจากหนังสัตว์ ได้แก่ กลองทัด กลองแขก กลองมลายู ตะโพน ฯลฯ
- เครื่องตีไม้ คือ เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ ได้แก่ บัณเฑาะว์ ฯลฯ
เครื่องดนตรีไทยประเภทอื่นๆ
นอกจากเครื่องดนตรีไทยประเภทตีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีเครื่องดนตรีไทยประเภทตีที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- ระนาดเอกเหล็ก เป็นระนาดที่ทำจากไม้และตีด้วยเหล็ก เสียงจะสูงกว่าระนาดเอกไม้
- ระนาดทุ้มเหล็ก เป็นระนาดที่ทำจากไม้และตีด้วยเหล็ก เสียงจะสูงกว่าระนาดทุ้มไม้
- ฆ้องโหม่ง เป็นฆ้องที่มีเสียงทุ้มต่ำและแหลม มักใช้บรรเลงประกอบทำนองเพลง
- ฆ้องจิ๋ว เป็นฆ้องขนาดเล็กที่มีเสียงแหลม มักใช้บรรเลงประกอบจังหวะ
- เปิงมาง เป็นกลองขนาดกลางที่มีเสียงทุ้มต่ำ มักใช้บรรเลงประกอบจังหวะ
บทสรุป
เครื่องดนตรีไทยประเภทตีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทย มีความสำคัญต่อดนตรีไทยเป็นอย่างมาก การเรียนรู้และอนุรักษ์เครื่องดนตรีเหล่านี้ไว้จึงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การส่งเสริม
เครื่องดนตรีไทยประเภทตีมิได้เพียงสร้างสรรค์ความไพเราะทางเสียงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทย เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นล้วนมีประวัติความเป็นมาและเทคนิคการบรรเลงที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้และอนุรักษ์ไว้ให้สืบสานต่อไป การสัมผัสกับเครื่องดนตรีไทยประเภทตีจึงเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ทางดนตรีและเสริมสร้างความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของเรา
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
- สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2558). เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน
- กรมศิลปากร. (2563). เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บ้านบางกอก
- สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (2565). เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน
- สัมภาษณ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนตรี ตราโมท. (2565, มีนาคม 10). เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี. สัมภาษณ์โดย ผู้เขียน
- สัมภาษณ์ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์. (2565, มีนาคม 15). เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี. สัมภาษณ์โดย ผู้เขียน
- https://th.wikipedia.org
- http://www.nextsteptv.com
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี”