โคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพ คือรูปแบบของโคลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และนิยมมากในการแต่งวรรณกรรมไทย โคลงสี่สุภาพนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการอธิบายความหมายของคำ และเป็นรูปแบบที่นิยมใช้แต่งบทกวีในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้น โคลงสี่สุภาพจึงเป็นที่รู้จักในการบรรยายและแสดงความรู้สึกของกวีอย่างชัดเจน
โคลงสี่สุภาพ คือโคลงที่ใช้ในการเผยแพร่ความรู้และเข้าใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยในอดีตอันยาวนาน ผ่านสัมผัสและเสียงวรรณยุกต์ การศึกษาโคลงสี่สุภาพจึงเป็นทางเลือกที่ดี ในการที่เราจะได้ทำความรู้จักกับความเป็นไป ความรู้ และประสบการณ์ของชาวไทยในอดีต
แผนผังโคลงสี่สุภาพ
สามารถแปลงเป็นโคลงสี่สุภาพแม่กอ เพื่อความเข้าใจในหลักการจำตำแหน่งวรรณยุกต์ ได้ดังนี้
กากากาก่าก้า กากา (00) กาก่ากากากา ก่าก้า กากาก่ากากา กากา (00) กาก่ากากาก้า ก่าก้ากากา
เครดิทลุงอ่ำ
การแต่งโคลงสี่สุภาพ
การแต่งโคลงสี่สุภาพเป็นศิลปะที่มีความซับซ้อนและยากน้อยที่สุดในวรรณกรรมไทย นอกจากการสร้างเนื้อความที่มีความสวยงามและมีความหมาย เรายังต้องรักษาเป็นอย่างดีเรื่องรูปแบบและรูปวรรณยุกต์
คำบังคับและคำที่มิได้บังคับ: การใช้คำที่บังคับรูปวรรณยุกต์เอกและโทช่วยให้เนื้อความมีลักษณะเป็นโคลงสี่สุภาพแท้จริง ในขณะที่คำที่ไม่บังคับรูปวรรณยุกต์เอกสามารถใช้ได้ตามเนื้อความ
การรักษาเนื้อความ: การแต่งโคลงสี่สุภาพต้องรักษาเนื้อความให้สอดคล้องกับกาพย์เรื่อง โคลงนั้นๆ ตลอดจนที่อาจจะต้องรักษาเรื่องราวและข้อคิดให้เหมือนกับเวอร์ชันเดิม
การแต่งโคลงสี่สุภาพมิได้เพียงแค่การสร้างคำที่มีลักษณะเอกและโทเท่านั้น แต่ยังต้องรู้จักรักษาเนื้อความและความหมายของกาพย์ไว้ด้วย การเรียนรู้และฝึกฝนศิลปะนี้จะทำให้เรามีความเข้าใจลึกซึ้งและความน่าประทับใจในโคลงสี่สุภาพแห่งวรรณกรรมไทยและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างของวรรณกรรมโลก
ลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพ
1. คณะ
โคลงสี่สุภาพ 1 บทมี 4 บาท โดย 1 บรรทัดคือ 1 บาท แต่ละบาทมี 2 วรรค
บาทที่ 1 บาทที่ 2 และบาทที่ 3 มีจำนวนคำเท่ากัน คือ วรรคหน้ามี 5 คำ ส่วนวรรคหลังมี 2 คำ
บาทที่ 4 วรรคหน้ามี 5 คำเช่นกัน แต่วรรคหลังจะมี 4 คำ
รวมทั้งสิ้น 1 บทจะมี 30 คำ
2. คำสร้อย
คำสร้อย คือคำที่แต่งท้ายบาทของโคลงตามข้อบังคับ เพื่อทำให้ได้ใจความครบถ้วน ถ้าโคลงบาทใดได้ความครบถ้วนแล้ว ก็ไม่ต้องเติมคำสร้อย
ตำแหน่งที่กำหนดให้เติมคำสร้อยคือ ท้ายบาทที่ 1 และท้ายบาทที่ 3
คำสร้อยต้องมีแห่งละ 2 คำเสมอ โดยคำแรกเป็น คำสุภาพ ที่ต้องการเสริมความให้สมบูรณ์ ส่วนคำหลังมักลงท้ายด้วยคำต่อไปนี้ “พ่อ แม่ พี่ รา แล เลย เอย นา นอ เนอ ฤๅ ฮา แฮ เฮย” และมีอีกคำหนึ่งที่พบในโคลงโบราณ คือคำว่า “บารนี” ซึ่งใช้คำสร้อยได้ครบพยางค์โดยไม่ต้องเติมคำอื่น
3. คำสัมผัส เอก โท และ คำตาย
โคลงสี่สุภาพบังคับรูปวรรณยุกต์ เอก โท คือ บังคับรูปวรรณยุกต์เอก 7 ตำแหน่ง รูปวรรณยุกต์โท 4 ตำแหน่ง (ตามแผนผัง)
ในการแต่งโคลงสี่สุภาพ บางครั้งเมื่อไม่สามารถหาคำที่มีรูปวรรณยุกต์เอก หรือรูปวรรณยุกต์โทมาใช้ในที่บังคับวรรณยุกต์ตามแผนผังได้ จำเป็นต้องใช้คำ “เอกโทษ” หรือคำ “โทโทษ” คือ นำคำที่ต้องการใช้ไปเปลี่ยนให้เป็นรูปวรรณยุกต์เอก หรือโท แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่างยิ่งแล้วก็ไม่ควรใช้ เพราะทำให้รูปคำเสีย และความหมายอาจเปลี่ยนไป
เช่น ใช้คำว่า “ข้า” แทนคำว่า “ฆ่า” เป็นต้น และในอีกกรณีหนึ่งคือ คำเอกและคำโทที่อยู่ติดกัน บางครั้งอาจสลับที่กันก็ได้
ในโคลงสี่สุภาพนั้น มีการใช้เสียง “คำตาย” แทนวรรณยุกต์เอกได้ทุกแห่งที่บังคับรูปวรรณยุกต์เอก ไม่ว่าคำตายนั้นๆ จะมีเสียงวรรณยุกต์ใด อาจเป็นคำตายเสียงเอก เช่น บาด จิต หรือคำตายเสียงโท เช่น วาด ภาพ หรือคำตายเสียงตรี เช่น พบ รัก เป็นต้น
ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ
๏ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤาพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ ถามเผือ ๛
๏ นิพนธ์กลกล่าวไว้ เป็นฉบับ พึงเพ่งตามบังคับ ถี่ถ้วน เอกโทท่านลำดับ โดยที่ สถิตนา ทุกทั่วลักษณะล้วน เล่ห์นี้คือโคลง ๛
นิราศนรินทร์
๏ จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง บางยี่เรือราพราง พี่พร้อง เรือแผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา บางบ่รับคำคล้อง คล่าวน้ำตาคลอ ๛
นิราศนรินทร์
๏ มาฆบูชาเทศน์ถ้อย ธรรมคุณ คืนค่ำบำเพ็ญบุญ บาทเบื้อง วารโอวาทคอยจุน จิตสว่าง ไสวเเล เพ็ญพร่างทางธรรมเยื้อง ย่างย้ายขยายธรรม
๏ พันสองร้อยห้าสิบถ้วน พระสงฆ์ เผยแพร่ธรรมพุทธองค์ ออกเเคว้น หมายมุ่งกลับคืนคง ราชคฤห์ พร้อมนา เวฬุวันเหมือนแม้น ดั่งได้นัดหมาย ๏ โอวาทปาติโมกข์เน้น นำสอน ละชั่วกรวดตะกอน กร่อนเนื้อ ทำดีขจายขจร จบทั่ว สกนธ์แฮ จิตผ่องผุดผาดเกื้อ ก่อให้โลกงาม ๏ ดอกบัวเทียนธูปน้อม นมัสการ อรหังสัมมาขาน เเจ่มเเจ๋ว นะโมตัสสะสาร สามขบ กระจ่างนา อิติปิโสแล้ว สืบถ้วนจงเจริญ ๏ "องค์ใดพระสัมพุทธ" ซร้อง สืบเสียง สวากขาโตเพียง เพราะล้ำ "ธรรมะคือคุณากร"เคียง ขานสดับ จิตนา สุปฏิปันโนย้ำ อย่าได้ลืมหลง ๏ "สงฆ์ใดสาวก"ผู้ ดำรง ศาสน์นอ พาหุงสหัสฯผจง จิตตั้ง ตาม"ปางเมื่อพระองค์" เอิมอิ่ม ฤทัยเเล "อัชชายัง"ประจวบครั้ง เเต่เบื้องพุทธกาล ๏ "มาฏะนักขัตตะ"แล้ว เวียนชวา สามจบทักษิณา นิ่งไว้ รำลึกพระพุทธา อิติ ปิโสเเล พระธรรมพระสงฆ์ไซร้ เสร็จสิ้นมาฆวาร๚ ๛
อาจารย์ภาทิพ ศรีสุทธิ์ 23 กุมภาพันธ์ 2548
ความสำคัญของโคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพมีความสำคัญสำหรับวรรณกรรมไทย เนื่องจากมันเป็นที่รู้จักและเข้าใจในระดับสูงและถูกยอมรับในวงกว้าง นอกจากนี้ โคลงสี่สุภาพยังเป็นที่นิยมในการใช้ในกาพย์เพราะสามารถสร้างความหรูหราและสวยงามให้กับกาพย์ได้
การประยุกต์ใช้โคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ประเภทหนึ่งของบทร้อยกรองไทย มีลักษณะบังคับคำและเสียงตามฉันทลักษณ์ที่แน่นอน ประกอบด้วย 4 บท แต่ละบทมี 4 บรรทัด แต่ละบรรทัดมี 8 พยางค์ รูปวรรณยุกต์เป็นแบบสัมผัสนอก สัมผัสภายใน และสัมผัสบังคับ โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ใช้ในการแต่งบทกวี บทร้อยกรองต่างๆ รวมไปถึงในวรรณคดีไทย เช่น นิราศพระยาตรัง นิราศภูเขาทอง รามเกียรติ์ เป็นต้น
โคลงสี่สุภาพสามารถประยุกต์ใช้ในงานวรรณกรรมได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้
1. ใช้สื่อความรู้สึก แสดงความคิดเห็น
โคลงสี่สุภาพสามารถใช้ในการสื่อความรู้สึก แสดงความคิดเห็นได้อย่างลึกซึ้ง ไพเราะ และกระชับ เช่น
เหงาใจนักหนา อยู่เปล่าลำพัง
คิดถึงคนรัก ใจหายวาบ
อยากจะพบเจอ เสียเหลือเกิน
เพียงได้เห็นหน้า ก็ชื่นใจ
โคลงสี่สุภาพบทนี้ใช้สื่อความรู้สึกเหงาของชายหนุ่มที่ต้องอยู่ห่างไกลคนรัก โดยการใช้คำและสัมผัสที่ไพเราะ กระชับ และตรงประเด็น
2. บรรยายทิวทัศน์
โคลงสี่สุภาพสามารถใช้ในการบรรยายทิวทัศน์ได้อย่างงดงามและสมจริง เช่น
โคลงสี่สุภาพบรรยายทิวทัศน์
ภูเขาสูงตระหง่าน ปกคลุมด้วยเมฆ
แม่น้ำใสไหลเย็น สะท้อนแสงอาทิตย์
นกร้องเสียงไพเราะ ป่าไม้เขียวขจี
ช่างเป็นภาพที่สวยงาม น่าประทับใจ
โคลงสี่สุภาพบทนี้ใช้บรรยายทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติ โดยการใช้คำและสัมผัสที่ชัดเจน สมจริง และน่าประทับใจ
3. สอนคติธรรม เตือนสติ
โคลงสี่สุภาพสามารถใช้ในการสอนคติธรรม เตือนสติได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ เช่น
โคลงสี่สุภาพสอนคติธรรม
โลกนี้ไม่เที่ยง อนิจจัง
สุขลาภไม่ยั่งยืน อนัตตา
จงรู้จักปล่อยวาง วางความยึดมั่น
ถึงจะพบความสุขที่แท้จริง
โคลงสี่สุภาพบทนี้ใช้สอนคติธรรมเรื่องความไม่เที่ยงแท้ของชีวิตและความสำคัญของการปล่อยวาง โดยการใช้คำและสัมผัสที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้งและกินใจ
4. แต่งเล่นสนุก ประกวดกวีนิพนธ์
โคลงสี่สุภาพสามารถใช้ในการแต่งเล่นสนุก ประกวดกวีนิพนธ์ได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ เช่น
โคลงสี่สุภาพแต่งเล่นสนุก
เช้าวันใหม่มาถึง สดใส
นกร้องเสียงไพเราะ ชื่นใจ
วันนี้ฉันจะทำอะไรดี
คิดไม่ออกเลย ช่างน่าเบื่อ
โคลงสี่สุภาพบทนี้ใช้แต่งเล่นสนุก โดยใช้คำและสัมผัสที่กระชับ เข้าใจง่าย และแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน
โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ที่มีเสน่ห์และคุณค่าทางวรรณกรรมมากมาย สามารถประยุกต์ใช้ในงานวรรณกรรมได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่ง
เคล็ดลับการแต่งโคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ประเภทหนึ่งของบทร้อยกรองไทย มีลักษณะบังคับคำและเสียงตามฉันทลักษณ์ที่แน่นอน ประกอบด้วย 4 บท แต่ละบทมี 4 บรรทัด แต่ละบรรทัดมี 8 พยางค์ รูปวรรณยุกต์เป็นแบบสัมผัสนอก สัมผัสภายใน และสัมผัสบังคับ โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ใช้ในการแต่งบทกวี บทร้อยกรองต่างๆ รวมไปถึงในวรรณคดีไทย เช่น นิราศพระยาตรัง นิราศภูเขาทอง รามเกียรติ์ เป็นต้น
หากต้องการแต่งโคลงสี่สุภาพได้อย่างไพเราะและถูกต้องตามฉันทลักษณ์ จำเป็นต้องเรียนรู้เคล็ดลับในการแต่งโคลงสี่สุภาพ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1. ฝึกฝนการใช้ภาษา
โคลงสี่สุภาพเป็นคำประพันธ์ที่ต้องใช้ภาษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การฝึกฝนการใช้ภาษาให้คล่องแคล่ว เข้าใจหลักการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง จะช่วยให้สามารถแต่งโคลงสี่สุภาพได้อย่างไพเราะและเข้าใจง่าย
2. อ่านโคลงสี่สุภาพของกวีคนอื่น
การอ่านโคลงสี่สุภาพของกวีคนอื่นจะช่วยให้เข้าใจรูปแบบและเทคนิคในการแต่งโคลงสี่สุภาพมากขึ้น สังเกตการใช้คำ สัมผัส และการจัดวางโครงสร้างของโคลงสี่สุภาพ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการแต่งของตนเอง
3. หมั่นฝึกแต่งบ่อยๆ
การฝึกแต่งโคลงสี่สุภาพบ่อยๆ จะช่วยให้เกิดความชำนาญและเข้าใจในหลักการแต่งโคลงสี่สุภาพมากขึ้น เริ่มต้นจากการแต่งโคลงสี่สุภาพสั้นๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นตามลำดับ
นอกจากเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการแต่งโคลงสี่สุภาพก็คือ การมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สร้างสรรค์โคลงสี่สุภาพที่มีเนื้อหาที่ไพเราะ กระชับ และสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง
ประวัติศาสตร์ของโคลงสี่สุภาพในวรรณกรรมไทย
สมัยอยุธยาตอนกลาง: โคลงสี่สุภาพเคยเป็นส่วนสำคัญของวรรณกรรมไทยที่นิยมมากที่สุด โคลงเหล่านี้มีความเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่หายไป บางโคลงต่างมีเนื้อหาที่น่าสนใจและยังเล่าเรื่องราวของกาพย์และสถานการณ์ในสมัยอยุธยาได้อย่างชัดเจน
- โคลงเรื่องพาลีสอนน้อง: เป็นโคลงที่เน้นการสอนและเล่าเรื่องเล็ก ๆ ในรูปแบบของกาพย์
- โคลงทศรถสอนพระราม: มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสอนคุณธรรมและหลักจรรยาบรรณ
- โคลงราชสวัสดิ์ พระราชนิพนธ์สมเด็จพระนายรายณ์มหาราช: เน้นเรื่องราวของพระมหาราชวงศ์และประวัติของพระมหากรุณาธิเบศร
- โคลงนิราศนครสวรรค์: เป็นการบรรยายถึงนครสวรรค์และความงดงามของมัน
สมัยอยุธยาตอนปลาย: โคลงสี่สุภาพยังคงเป็นที่นิยม โคลงนิราศพระบาท เล่าถึงพระบาทหรือกษัตริย์และความภูมิใจในชาติของคนไทย นอกจากนี้, โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัย และโคลงพระราชนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร เป็นโคลงที่พูดถึงเจ้าฟ้าและความสำคัญของพวกเขาในสังคม
สมัยธนบุรี: โคลงสี่สุภาพยังคงเป็นส่วนสำคัญของวรรณกรรมไทย ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นโคลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการประชุมสภาแห่งชาติ และโคลงนิราศสุพรรณ ให้มุ่งหวังความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
โคลงสี่สุภาพเป็นสิ่งที่ทำให้วรรณกรรมไทยมีความเป็นเอกลักษณ์และสืบทอดไปในปัจจุบัน ความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จของวรรณกรรมไทยในสมัยอยุธยามีความเกี่ยวข้องกับโคลงสี่สุภาพและความคิดสร้างสรรค์ของกวีในสมัยนั้น
ความเป็นมาและความสำคัญของโคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพ หรือ โคลงที่ใช้วรรณยุกต์แบบสี่สุภาพ เป็นหนึ่งในรูปแบบคำประพันธ์ที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากในวรรณกรรมไทยตลอดกาล มันเป็นลักษณะที่ทำให้กวีต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางวรรณยุกต์เอกและโทอย่างเคร่งครัด คำว่า “สุภาพ” หมายถึงคำที่มิได้มีรูปวรรณยุกต์ และมีลักษณะการแต่งที่ค่อนข้างซับซ้อน โคลงสี่สุภาพมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวและความคิดในรูปแบบกวีและพื้นฐานทางวรรณยุกต์ของภาษาไทย
การเปลี่ยนแปลงของโคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างช่วงเวลาและสมัยต่างๆ ในสมัยอยุธยาตั้งแต่ต้นอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการใช้โคลงสี่สุภาพในรูปแบบต่าง ๆ โคลงนั้นมักจะสร้างขึ้นเพื่อรักษาความสวยงามและความน่าสนใจของกาพย์ ในระหว่างสมัยธนบุรี ได้มีการสร้างโคลงสี่สุภาพเพิ่มเติมที่นำมาใช้ในสวดมนต์และพิธีกรรมศาสนา ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของการใช้โคลงสี่สุภาพในวรรณกรรมไทย
การใช้โคลงสี่สุภาพในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน โคลงสี่สุภาพยังคงมีความสำคัญในวรรณกรรมไทย โดยเฉพาะในการสร้างกาพย์ที่เน้นความสวยงามและความหรูหรา การศึกษาและการฝึกฝนการใช้โคลงสี่สุภาพยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกวีและนักเขียนในการพัฒนาทักษะการแต่งกาพย์ของตนเอง
บทสรุป
โคลงสี่สุภาพเป็นรูปแบบคำประพันธ์ที่สำคัญและมีความสำคัญในวรรณกรรมไทย มันได้รับการปรับปรุงและใช้งานในหลายรูปแบบตลอดระยะเวลายาวนาน การใช้โคลงสี่สุภาพมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวและความคิดให้กับกาพย์ และยังเป็นการฝึกฝนทางวรรณยุกต์และศิลปะในวรรณกรรมไทยอย่างยิ่งยวดในปัจจุบัน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล
Supit says
การร้องกลอนช่วยสร้างสมาธิและความสงบใจ
Nirut says
กลอนสามารถเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องทางวรรณคดี
Phairot says
ขอบคุณครับมากมากค่ะ
Nat says
การอ่านกลอนช่วยเราพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน
ศุภัสสร ศรีชมวิทย์ says
แนะนำเลยค่ะ
Thongdee says
กลอนช่วยในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
Charnchai says
การแต่งกลอนทำให้ฝึกทักษะในการใช้คำและวรรณยุกต์
Sutha says
การแต่งกลอนสามารถเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
CrimsonMage says
ขอบคุณค่ะเลยค่ะ!
Tien Shinhan says
ครูคนนี้น่ารักมากค่ะ
Boripat says
กลอนมีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ
Misa Amane says
แนะนำเลยค่ะ
วิภาวดี says
กลอนเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการสื่อสารและบอกเรื่องในวรรณคดีไทย
Sumet says
การอ่านและรับรู้กลอนช่วยเราในการเข้าใจวรรณคดีไทย
ศิรินทร์ says
กลอนสามารถใช้เล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ
Akkaraphon says
กลอนเป็นวิธีที่น่าสนุกในการเรียนรู้ภาษาไทย
สิทธิพล says
กลอนเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ
Pisit says
กลอนเป็นศิลปะที่สร้างความรู้สึกและอารมณ์ต่อกัน
Apple Pimnara says
ดีแหละนะ
วสุ says
การเรียนรู้กลอนเป็นวิธีที่สนุกและน่าสนใจ
ศศิธร says
กลอนช่วยในการแสดงความคิดเรื่องภาษาไทยได้อย่างสวยงาม
อร says
กลอนเป็นรูปแบบของวรรณคดีที่น่าสนใจมาก