เลขโรมัน
เลขโรมัน (Roman numerals) คือระบบตัวเลขโบราณที่ใช้ตัวอักษรละตินเป็นสัญลักษณ์ แทนค่าตัวเลขต่างๆ โดยมีเอกลักษณ์สำคัญคือไม่มีหลัก (placeless numeral system) และใช้หลักการรวมค่า (additive system) และลบค่า (subtractive system) ในการกำหนดค่าของตัวเลข เลขโรมันถูกนำมาใช้แพร่หลายในสมัยโรมโบราณ และยังคงปรากฎให้เห็นในปัจจุบัน
การอ่านเลขโรมัน
เลขโรมันใช้ตัวอักษรในอักษรละตินแทนค่าตัวเลข โดยแต่ละตัวอักษรมีค่าดังนี้
I = 1
V = 5
X = 10
L = 50
C = 100
D = 500
M = 1,000
การอ่านเลขโรมันหลายหลัก
เมื่อคุณต้องอ่านเลขโรมันหลายหลัก ให้เริ่มต้นอ่านจากซ้ายไปขวาเสมอ และสังเกตุว่าสัญลักษณ์ถัดไปมีค่ามากหรือน้อยกว่าสัญลักษณ์ตัวก่อนหน้า โดยมีหลักการอ่านที่พอจะเข้าใจได้ง่ายดายดังนี้
- ตัวเลขโรมันที่มาโดดๆ ของหน่วยตัวเองเลย มักจะลงท้ายด้วย 1, 5, หรือ 10 ให้นำมาบวกกันได้หมดเลยเช่น
- V = 5
- XV = 10 + 5 = 15
- LXV = 50 + 10 + 5 = 65
- CLXV = 100 + 50 + 10 + 5 = 165
- เลขโรมันที่มีค่ามากกว่า อยู่ด้านหน้าเลขโรมันที่มีค่าน้อยกว่า แสดงถึงการบวก ให้นำตัวเลขที่น้อยกว่ามาบวก เช่น
- VI = 5 + 1 = 6
- XII = 10 + 2 = 12
- XVI = 10 + 5 + 1 = 16
- เลขโรมันที่มีค่าน้อยกว่า อยู่ด้านหน้าเลขโรมันที่มีค่ามากกว่า แสดงถึงการลบค่า ให้นำตัวเลขที่น้อยกว่ามาลบ เช่น
- IV = 5 – 1 = 4
- XL = 50 – 10 = 40
- CD = 500 – 100 = 400
- เลขโรมันตัวเดียวกัน เบิ้ลมา ให้นำมาบวกกันทั้งหมด เช่น
- XX = 10 + 10 = 20
- CCC = 100 + 100 + 100 = 300
- MMMM = 1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000
การเขียนเลขโรมัน
การเขียนเลขโรมันสามารถเขียนแทนเฉพาะจำนวนเต็มบวกเท่านั้น เนื่องจากในสมัยก่อนโรมยังไม่มีสัญลักษณ์แทนเลขศูนย์หรือเลขทศนิยม
ในการเขียนเลขโรมัน ให้เขียนสัญลักษณ์ที่มีค่ามากที่สุดไปหาสัญลักษณ์ที่มีค่าน้อยที่สุด โดยสัญลักษณ์ที่มีค่าน้อยกว่าสามารถอยู่ด้านหน้าสัญลักษณ์ที่มีค่ามากกว่าเพื่อแสดงถึงการลบค่าได้ เช่น
- MCCCXXV = 1,000 + 300 + 20 + 5 = 1,325
- MMMDLXVII = 3,000 + 500 + 60 + 7 = 3,567
นอกจากนี้ยังมีกฎการเขียนอื่นๆ ดังนี้
- ห้ามเขียนสัญลักษณ์เดียวกันเกิน 3 ตัวติดกัน
- ห้ามเขียนสัญลักษณ์ I ข้างหน้า V หรือ X เพื่อแสดงค่า 4 หรือ 9
- ห้ามเขียนสัญลักษณ์ X ข้างหน้า L หรือ C เพื่อแสดงค่า 40 หรือ 90
เลขโรมัน 1-100
ใช้ตารางต่อไปนี้เพื่อเปรียบเทียบระหว่างเลขอารบิก และเลขโรมัน 1-100 นะครับ
เลขอารบิก | เลขโรมัน |
---|---|
1 | I |
2 | II |
3 | III |
4 | IV |
5 | V |
6 | VI |
7 | VII |
8 | VIII |
9 | IX |
10 | X |
11 | XI |
12 | XII |
13 | XIII |
14 | XIV |
15 | XV |
16 | XVI |
17 | XVII |
18 | XVIII |
19 | XIX |
20 | XX |
21 | XXI |
22 | XXII |
23 | XXIII |
24 | XXIV |
25 | XXV |
26 | XXVI |
27 | XXVII |
28 | XXVIII |
29 | XXIX |
30 | XXX |
31 | XXXI |
32 | XXXII |
33 | XXXIII |
34 | XXXIV |
35 | XXXV |
36 | XXXVI |
37 | XXXVII |
38 | XXXVIII |
39 | XXXIX |
40 | XL |
41 | XLI |
42 | XLII |
43 | XLIII |
44 | XLIV |
45 | XLV |
46 | XLVI |
47 | XLVII |
48 | XLVIII |
49 | XLIX |
50 | L |
เลขอารบิก | เลขโรมัน |
---|---|
51 | LI |
52 | LII |
53 | LIII |
54 | LIV |
55 | LV |
56 | LVI |
57 | LVII |
58 | LVIII |
59 | LIX |
60 | LX |
61 | LXI |
62 | LXII |
63 | LXIII |
64 | LXIV |
65 | LXV |
66 | LXVI |
67 | LXVII |
68 | LXVIII |
69 | LXIX |
70 | LXX |
71 | LXXI |
72 | LXXII |
73 | LXXIII |
74 | LXXIV |
75 | LXXV |
76 | LXXVI |
77 | LXXVII |
78 | LXXVIII |
79 | LXXIX |
80 | LXXX |
81 | LXXXI |
82 | LXXXII |
83 | LXXXIII |
84 | LXXXIV |
85 | LXXXV |
86 | LXXXVI |
87 | LXXXVII |
88 | LXXXVIII |
89 | LXXXIX |
90 | XC |
91 | XCI |
92 | XCII |
93 | XCIII |
94 | XCIV |
95 | XCV |
96 | XCVI |
97 | XCVII |
98 | XCVIII |
99 | XCIX |
100 | C |
เลขโรมันในชีวิตประจำวัน
เลขโรมันเป็นระบบตัวเลขที่ใช้ในโรมโบราณ และยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มักพบเห็นในหน้าปัดนาฬิกา อาคาร อนุสรณ์สถาน และเอกสารสำคัญต่างๆ โดยเลขโรมันในชีวิตประจำวันยุคปัจจุบันมีดังต่อไปนี้
1. บอกเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา
ตัวเลขโรมันมักใช้บอกเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา เริ่มจากเลข 1 ถึง 12 เรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวา โดยเลข 1 แทนด้วย I, 2 แทนด้วย II, 3 แทนด้วย III, 4 แทนด้วย IV, 5 แทนด้วย V, 6 แทนด้วย VI, 7 แทนด้วย VII, 8 แทนด้วย VIII, 9 แทนด้วย IX, 10 แทนด้วย X, 11 แทนด้วย XI และ 12 แทนด้วย XII
2. เติมท้ายชื่อของบุคคลหรือพระนามของพระมหากษัตริย์ในภาษาอังกฤษ
เลขโรมันมักใช้เติมท้ายชื่อของบุคคลหรือพระนามของพระมหากษัตริย์ในภาษาอังกฤษ เพื่อระบุลำดับหรือตำแหน่ง เช่น Queen Elizabeth II (สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2), King Rama IX (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช) หรือ Pope John Paul II (สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2)
3. ใช้แสดงปีในวันที่ของละคร ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และวิดีโอภาษาอังกฤษ
เลขโรมันมักใช้แสดงปีในวันที่ของละคร ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และวิดีโอภาษาอังกฤษ เช่น World War I (สงครามโลกครั้งที่ 1) ในปี 1914-1918 แทนด้วย MCMXI-MCMXVIII หรือ World War II (สงครามโลกครั้งที่ 2) ในปี 1939-1945 แทนด้วย MCMXLIX-MCMLIII
4. ใช้เขียนเพื่อแสดงถึงสงครามโลก
เลขโรมันมักใช้เขียนเพื่อแสดงถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง ได้แก่ World War I (สงครามโลกครั้งที่ 1) แทนด้วย WWI และ World War II (สงครามโลกครั้งที่ 2) แทนด้วย WWII
5. ใช้ระบุหน้าหรือบทในหนังสือ
เลขโรมันมักใช้ระบุหน้าหรือบทในหนังสือ เช่น บทที่ 1 แทนด้วย I, บทที่ 2 แทนด้วย II, บทที่ 3 แทนด้วย III และบทที่ 10 แทนด้วย X
6. แสดงลำดับหรือดัชนีในเอกสาร โดยเฉพาะเอกสารทางการและเอกสารทางกฎหมาย
เลขโรมันมักใช้แสดงลำดับหรือดัชนีในเอกสาร โดยเฉพาะเอกสารทางการและเอกสารทางกฎหมาย เช่น ข้อที่ 1 แทนด้วย I, ข้อที่ 2 แทนด้วย II, ข้อที่ 3 แทนด้วย III และข้อที่ 10 แทนด้วย X
เลขโรมันเป็นระบบตัวเลขที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานเลขโรมันจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจและรู้จักการใช้งานเลขโรมันในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
เขียนวันเกิดของตัวเอง ด้วยตัวเลขโรมัน
การเขียนปีเกิดเป็นตัวเลขโรมัน สามารถทำได้ดังนี้
- แยกตัวเลขปีเกิดออกเป็นหลักๆ โดยเริ่มจากหลักพัน หลักร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย
- เขียนตัวเลขโรมันสำหรับแต่ละหลัก โดยให้หลักที่มากที่สุดอยู่ซ้ายมือ ส่วนหลักที่มีค่าน้อยลงจะอยู่ทางขวามือ
- ในกรณีที่สัญลักษณ์ที่มีค่าน้อยกว่าอยู่ด้านหน้าสัญลักษณ์ที่มีค่ามากกว่า จะหมายถึงการลบค่า
- แล้วนำ วัน/เดือน/ปี มารวมกันกลายเป็นวันเกิดในเลขโรมัน
เขียนปีเกิดเป็นตัวเลขโรมัน
- ปี 1993 = MCMXCIII
- ปี 2001 = MNI
- ปี 2005 = MNV
- ปี 2022 = MMXXII
- ปี 2023 = MMXXIII
- ปี 2565 = MMDLXV
- ปี 2566 = MMDLXVI
เขียนเดือนเกิดด้วยเลขโรมัน
- เดือนมกราคม = I
- เดือนกุมภาพันธ์ = II
- เดือนมีนาคม = III
- เดือนเมษายน = IV
- เดือนพฤษภาคม = V
- เดือนมิถุนายน = VI
- เดือนกรกฎาคม = VII
- เดือนสิงหาคม = VIII
- เดือนกันยายน = IX
- เดือนตุลาคม = X
- เดือนพฤศจิกายน = XI
- เดือนธันวาคม = XII
รวมวัน/เดือน/ปี เข้าเป็นวันเกิดด้วยเลขโรมัน
เมื่อเราได้เลขโรมันของทั้งวัน เดือน และปีแล้ว ก็นำเข้ามารวมกันกลายเป้นวันเกิดของคุณที่เขียนด้วยตัวเลขโรมัน โดยใช้รูปแบบ วัน/เดือน/ปี เช่น
- 5 มกราคม 1993 เขียนได้ว่า V / I / MCMXCIII
- 10 กุมภาพันธ์ 2001 เขียนได้ว่า X / II / MNI
- 15 มีนาคม 2005 เขียนได้ว่า XV / III / MNV
การเขียนปีเกิดเป็นตัวเลขโรมัน สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงทำตามหลักการและกฎการเขียนที่กำหนดไว้ การเรียนรู้วิธีการเขียนปีเกิดเป็นตัวเลขโรมันจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเขียนปีเกิดของตนเองหรือผู้อื่นได้อย่างถูกต้องและสวยงาม
เลขโรมันที่พบบ่อย
รวบรวมเลขโรมันที่พบบ่อยๆ และมีหลายคนที่สงสัยว่ามันเท่ากับตัวเลขอารบิกอะไรบ้าง
- เลขโรมัน IV = 4
- เลขโรมัน IX = 9
- เลขโรมัน XV = 15
- เลขโรมัน XIX = 19
- เลขโรมัน XXI = 21
- เลขโรมัน XXII = 22
- เลขโรมัน XXIV = 24
- เลขโรมัน XXV = 25
- เลขโรมัน XXVI = 26
- เลขโรมัน XXVII = 27
- เลขโรมัน XXVIII = 28
คำถามที่พบบ่อย
สัญลักษณ์เลขโรมันที่มักสับสนคืออะไร?
สัญลักษณ์เลขโรมันที่มักสับสนคือ IV และ IX ซึ่งมักเขียนผิดเป็น IIII และ IXIX ตามลำดับ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าสัญลักษณ์ที่มีค่าน้อยกว่าสามารถอยู่ด้านหน้าสัญลักษณ์ที่มีค่ามากกว่าเพื่อแสดงถึงการลบค่าได้เท่านั้น
บทสรุป
เลขโรมันเป็นระบบตัวเลขที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเรียนรู้หลักการอ่านและเขียนเลขโรมันอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “เลขโรมัน: วิธีอ่านและเขียน สำหรับผู้เริ่มต้น”