ซอสามสาย: เสียงแห่งวัฒนธรรมไทย
ท่ามกลางเสียงเพลงอันไพเราะและนุ่มนวลของเครื่องดนตรีไทยนั้น ซอสามสายถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยเสียงที่ไพเราะและบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนทำนองเพลง ซอสามสายมิใช่เพียงแค่เครื่องดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดมาช้านาน
ซอสามสาย
ซอสามสาย เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสี เป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำทำนองเพลง ซอสามสายมีเสียงที่ไพเราะและนุ่มนวล เหมาะสำหรับบรรเลงเพลงไทยประเภทต่าง ๆ เช่น เพลงช้า เพลงเร็ว เพลงกล่อมเด็ก เพลงละคร และเพลงประกอบการแสดงนาฏศิลป์
ประวัติความเป็นมาของซอสามสาย
ซอสามสายเป็นซอที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ปรากฏหลักฐานครั้งแรกใน สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏในจดหมายเหตุลาลูแบร์ บันทึกไว้ว่า ชาวสยามมีเครื่องดุริยางค์เล็กๆ มีสามสายเรียกว่า “ซอ”
ในสมัยรัตนโกสินทร์ ซอสามสายได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการปรับปรุงวัสดุที่ใช้ทำซอให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น และมีการประดิษฐ์คันชักแบบใหม่ที่มีขนหางม้าที่มีคุณภาพดี ทำให้เสียงของซอสามสายมีความไพเราะยิ่งขึ้น
พัฒนาการของซอสามสาย
ซอสามสายในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะกะโหลกซอเป็นทรงกระบอก ทำจากไม้มะค่าหรือไม้พะยูง หน้าซอทำจากหนังลูกวัวหรือหนังงู คันชักทำจากไม้หรืองาช้าง คันทวนทำจากไม้หรือโลหะ สายทำจากไหมหรือเอ็นสัตว์
ในสมัยรัตนโกสินทร์ ซอสามสายได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการปรับปรุงวัสดุที่ใช้ทำซอให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ดังนี้
- กะโหลกซอทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้กระพี้เขาควาย เป็นต้น ทำให้เสียงของซอมีความไพเราะยิ่งขึ้น
- หน้าซอทำจากหนังวัวหรือหนังแกะ ทำให้เสียงของซอมีความกังวานยิ่งขึ้น
- คันชักทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้กระพี้เขาควาย เป็นต้น ทำให้คันชักมีความแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น
- คันทวนทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้กระพี้เขาควาย เป็นต้น ทำให้คันทวนที่ยึดกะโหลกซอและหน้าซอเข้าด้วยกันมีความแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น
- สายทำจากเอ็นสัตว์ เช่น เอ็นม้า เอ็นวัว เอ็นควาย เป็นต้น ทำให้เสียงของซอมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาคันชักแบบใหม่ที่มีขนหางม้าที่มีคุณภาพดี ทำให้เสียงของซอสามสายมีความไพเราะยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบของซอสามสาย
ซอสามสายเป็น เครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสี มีส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้
1. กะโหลกซอ
กะโหลกซอ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของซอสามสาย ทำหน้าที่เป็นกล่องเสียง กะโหลกซอทำจากกะลาลามะพร้าวซอชนิดที่มีกะลานูนเป็นกระพุ้ง 3 ปุ่ม ขึงด้วยหนังแพะหรือหนังลูกวัว ผิวหนังจะถูกขึงให้ตึงเพื่อให้เกิดเสียงเมื่อสีสาย
2. หน้าซอ
หน้าซอ เป็นแผ่นไม้หรือกระดาษสาที่ปิดด้านหน้าของกล่องเสียง หน้าซอทำหน้าที่เป็นตัวกรองเสียง ทำให้เสียงของซอมีความกังวานและชัดเจนยิ่งขึ้น
3. คันซอ
คันซอ เป็นส่วนประกอบที่ใช้สำหรับสอดเข้าไปในกะโหลกซอ คันซอทำจากไม้หรือโลหะ มีทั้งหมด 4 ท่อน ท่อนบนเรียกว่า “ทวนบน” ท่อนล่างเรียกว่า “ทวนล่าง” ท่อนกลาง 2 ท่อนเรียกว่า “พรมบน” และ “พรมล่าง”
4. ลูกบิด
ลูกบิด เป็นส่วนประกอบที่ยึดสายซอและใช้ปรับระดับเสียง ลูกบิดทำจากไม้ งาช้าง หรือพลาสติก ลูกบิดจะติดอยู่กับทวนบน โดยแต่ละสายจะมีลูกบิด 1 ลูกบิด
5. สาย
สาย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างเสียง สายซอทำจากไหม เอ็นสัตว์ หรือโลหะ ซอสามสายมีสายทั้งหมด 3 สาย สายทุ้ม สายกลาง และสายแหลม
6. คันทวน
คันทวน เป็นส่วนประกอบที่ยึดกะโหลกซอและหน้าซอเข้าด้วยกัน คันทวนทำจากไม้หรือโลหะ คันทวนจะมีรูตรงกลางเพื่อให้คันซอสามารถสอดเข้าไปได้
นอกจากนี้ยังมีลูกบิดผูกสายซึ่งทำจากไม้หรือโลหะ ใช้ผูกสายซอเข้ากับทวนบน ลูกบิดผูกสายจะช่วยให้สายซอมีความแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น
วิธีการเล่นซอสามสาย
การจะเล่นซอสามสายได้อย่างถูกต้องและไพเราะนั้น ผู้เล่นต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ โดยวิธีการเล่นซอสามสายมีดังนี้
- ท่านั่ง ผู้เล่นซอสามสายควรนั่งตัวตรง เท้าทั้งสองข้างวางราบกับพื้น เข่าทั้งสองข้างชิดกัน
- การจับซอ ผู้เล่นซอสามสายควรจับซอด้วยมือซ้าย โดยวางนิ้วชี้และนิ้วกลางบนลูกบิดสายทุ้มและสายกลาง ส่วนนิ้วโป้งวางบนคันทวน
- การสีซอ การสีซอสามสายสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับจังหวะและท่วงทำนองของเพลง โดยผู้เล่นซอสามสายควรใช้นิ้วมือขวาสีสายซอให้สัมพันธ์กับจังหวะของเพลง
บทบาทของซอสามสายในวงดนตรีไทย
ซอสามสายเป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสีที่มีบทบาทสำคัญในวงดนตรีไทย โดยทำหน้าที่บรรเลงทำนองหลักของเพลง ซอสามสายจึงเป็นผู้นำทำนองเพลงในวงดนตรีไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงดนตรีประเภทมโหรีและปี่พาทย์
ในวงดนตรีมโหรี ซอสามสายจะทำหน้าที่บรรเลงทำนองหลักของเพลงร่วมกับเครื่องดนตรีอื่นๆ เช่น ขลุ่ย ระนาด และ ฆ้องวงใหญ่ ซอสามสายจะทำหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ของเพลง ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจความหมายของเพลงได้ดีขึ้น
ในวงดนตรีปี่พาทย์ ซอสามสายจะทำหน้าที่บรรเลงทำนองหลักของเพลงร่วมกับเครื่องดนตรีอื่นๆ เช่น ปี่ใน ปี่กลาง ปี่นอก และระนาดเอก ซอสามสายจะทำหน้าที่นำพาอารมณ์ของเพลงไปสู่จุดสูงสุด
นอกจากนี้ ซอสามสายยังถูกนำมาบรรเลงเดี่ยวหรือบรรเลงประกอบการแสดงนาฏศิลป์ไทยอีกด้วย ซอสามสายจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
บทบาทของซอสามสายในวงดนตรีไทยสามารถสรุปได้ดังนี้
- เป็นผู้นำทำนองเพลง
- ถ่ายทอดอารมณ์ของเพลง
- นำพาอารมณ์ของเพลงไปสู่จุดสูงสุด
- ส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
ซอสามสายจึงเป็นเครื่องดนตรีไทยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการดนตรีไทย และควรได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาสืบทอดต่อไป
บทสรุป
ซอสามสายมิใช่แค่เครื่องดนตรี แต่เป็นสัญลักษณ์ของความประณีตบรรจงและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย เสียงอันไพเราะของซอสามสายจะคงอยู่ต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ตราบเท่าที่เรายังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ไว้
การสืบทอดเสียงอันไพเราะของซอสามสายนั้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน เราสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ ชื่นชมการแสดงดนตรีไทย และสนับสนุนการเรียนการสอนซอสามสาย
ด้วยความรักและความเคารพในวัฒนธรรมไทย เราจะร่วมกันรักษาให้ซอสามสายยังคงเป็นเสียงแห่งวัฒนธรรมไทยที่ไพเราะไปชั่วกาลนาน
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
- ธนิต อยู่โพธิ์. (2523). เครื่องดนตรีไทย พร้อมด้วยตำนานผสมวง มโหรี ปี่พาทย์ และเครื่องสาย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์กรมศาสนา.
- อุทิศ นาคสวัสดิ์. (2546). ทฤษฎีและหลักปฏิบัติดนตรีไทย และพจนานุกรม ดนตรีไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
- อัษฎาวุธ สาคริก. (2550). เครื่อง ดนตรีไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานอุทยานการเรียนรู้.
- ประดิษฐ์ อินทนิล. (2536). ดนตรไทยและนาฎศิลป์. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสร์น.
- กระทรวงวัฒนธรรม. (2562). สารานุกรมดนตรีไทย. กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม.
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ซอสามสาย (เครื่องดนตรีไทย)”