เคยสงสัยไหมครับว่าเรียนคณิตศาสตร์ไปแล้ว เอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้ พี่เองก็ถามตัวเองอยู่บ่อยๆเหมือนกันครับว่าเราเรียนไปทำไม วันนี้พี่ติวฟรีจะมายกตัวอย่างให้ดูเรื่องนึงครับ กับการนำความน่าจะเป็นไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ความน่าจะเป็นกับกีฬา
ในกีฬาฟุตบอลที่ก่อนแข่งกรรมการจะโยนเหรียญเพื่อให้ฝ่ายที่ทายผลชนะได้เลือกก่อนว่าจะเขี่ยบอลหรือเลือกข้าง เราจะมีโอกาสจะเลือกได้ก่อน 50/50 เนื่องจากเหรียญจะออกหัวหรือไม่ก็ก้อย
ในกีฬาบาสเก็ตบอล ถ้าน้องๆสังเกตุดูนักบาสมืออาชีพหลายๆคน เขาจะมีระยะทางที่เขา “ถนัด” ในการชู๊ตลูกให้ลงห่วง และเขาก็จะพยามชู๊ตจากระยะทางนั้นๆ หรือตำแหน่งนั้นๆบ่อยๆ และพยายามไม่ชู๊ตในระยะทางที่ตัวเองไม่ถนัด
ความน่าจะเป็นกับบอร์ดเกมส์
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการทอยลูกเต๋า ถ้าต้องการจะทอยให้ได้เลขคี่ เราก็จะมีโอกาสทอยได้ถึง 50% เนื่องจากลูกเต๋ามี 6 หน้า และถ้าออก 1,3, หรือ 5 ก็จะได้เลขคี่
ความน่าจะเป็นในการเล่นคาสิโน
ในการเล่นไพ่ ถ้าเราต้องการจะจั่วไพ่ดอกจิกขึ้นมาจากกอง เราจะมีโอกาสได้ 25% เนื่องจากในกองนั้นมีไพ่ทั้งหมดสี่หน้า โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก และข้าวหลามตัด
และในการเล่นไพ่แบล๊คแจ๊ค ที่ผู้เล่นจะชนะเมื่อสะสมไพ่ในมือได้ 21 แต้ม ซึ่งผู้เล่นแบล๊คแจ๊คมือโปรระดับโลกทุกคนจะรู้กันว่า มีโอกาส 1/20 ที่จะเก็บไพ่ได้ครบ 21 แต้มพอดี หรือนั่นก็คือ 5%
ความน่าจะเป็นกับการผ่าตัด
สมมุติว่าน้องไม่สบาย เป็นไส้ติ่งอักเสบ และต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษา ก่อนที่หมอจะผ่าตัดหมอจะบอกน้องก่อนว่าการผ่าตัดนั้นมีโอกาสสำเร็จกี่เปอร์เซนต์ ซึ่งเลขเปอร์เซนต์ที่หมอบอกนี้ไม่ได้มาจากการเดา แต่ต้องเป็นตัวเลขมาตรฐานที่มาจากสถิติทางการแพทย์ที่ได้เก็บข้อมูลไว้ และตัวเลขนี้จะตรงกันทุกโงพยาบาล ทุกประเทศทั่วโลก ไม่ว่าน้องจะผ่าไส้ติ่งที่ไทย อเมริกา หรืออูกานดา น้องจะได้รับคำตอบว่า มีโอกาสสำเร็จสูงกว่า 99% เหมือนกันทุกที่
และจะไม่มีที่ไหนให้ตัวเลข 100% เพราะว่าจากสถิติแล้วมีคนไข้ไส้ติ่งอักเสบตาย 1% เสมอ
ความน่าจะเป็นกับพยากรณ์อากาศ
ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนในหน้าฝน น้องก็ควรจะต้องตรวจเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าว่าพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกหรือเปล่า และที่พยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกนี่คือ จะตกกี่เปอร์เซนต์ เช่นถ้าพยากรณ์ว่าฝนตก 99% นี่ก็ไม่ต้องไปแล้ว แต่ถ้าพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตก 15% ก็น่าไปมากกว่าแบบแรก
ความน่าจะเป็นกับหวย
มาถึงเรื่องสุดท้ายที่ติดแหมะอยู่กับสังคมไทย มีนักคณิตศาสตร์ได้นั่งคิดความน่าจะเป็นในการถูกหวยไทยไว้ว่า
รางวัลที่ 1 1/1ล้าน
รางวัลที่ 2 1/2แสน
รางวัลที่ 3 1/1แสน
เลขท้าย 3 ตัว 1/250
เลขท้าย 2 ตัว 1/100
นั่นคืออัตราการถูกรางวัลซึ่งบางคนก็อาจจะบอกว่าไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริงเพราะนี่คือการซื้อหวยแบบสุ่ม แต่พวกเขาหลายคนมีวิธีซื้อหวยที่ดีกว่านั้นคือการขอเลขจากเกจิอาจารย์ หรือทะเบียนรถของนายก แต่นั่นก็ทำให้เราสามารถใช้ความน่าจะเป็นในการคำนวณได้เช่นกัน
เช่นถ้ามีเกจิอาจารย์ 60 คน ใบ้หวยเลขท้ายสองตัวออกมา 60 เลขที่ไม่ซ้ำกันเลย ถ้าเลขนี้มีตัวนึงต้องถูกรางวัล เราก็สามารถคำนวณความน่าจะเป็นของการถูกรางวัลได้เท่ากับ การเลือกเกจิอาจารย์ที่เราเชื่อเพียงคนเดียว หารด้วยจำนวนเกจิอาจารย์ทั้งหมด = 1/60 แต่ถ้าเกจิอจารย์ดันพร้อมใจกันใบ้ผิดทั้งหมด ไปออกตัวเลขอื่นเลย ความน่าจะเป็นที่เราจะถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวจะเท่ากับ 0 ทันที
แถมให้นิดนึงครับ ถ้าคิดว่าเกจิอาจารย์ หรือพระท่านไหนรู้ว่าจะออกเลขอะไรก็จริง ทำไมท่านถึงไม่ซื้อเอง ทำไมท่านถึงไม่ถูกหวยงวดที่แล้ว ทั้งๆที่ถ้าถูกหวยรางวัลที่ 1 สี่สิบล้านบาทนี่แทบจะเลิกทำงานแล้วนอนอยู่บ้านทั้งวันได้เลย แต่ทำไมท่านยังไม่รวยสักที
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ความน่าจะเป็นในชีวิตประจำวัน”