กรุงแตก! เพลิงผลาญ! เสียงไห้คร่ำครวญกึกก้องไปทั่วกรุง… แต่ท่ามกลางซากปรักหักพังแห่งอยุธยา กลับมีแสงดาวทอประกายขึ้น นั่นคือ “พระเจ้าตากสิน” วีรบุรุษผู้ไม่ย่อท้อ ชายผู้ปลุกเร้าจิตวิญญาณกู้ชาติ จากเสียงกระบัตรเมืองตาก ผันแปรเป็นเสียงปืนปลดธนบุรี ภายใน 15 เดือน เปลี่ยนแผ่นดินที่แหลกเหลวให้กลับผงาดอีกครั้ง ติดตามเส้นทางเลือดน้ำตา ชัยชนะ และมรดกอันล้ำค่าของวีรบุรุษผู้กอบกู้สยามประเทศ สู่บทเรียนประวัติศาสตร์ที่มิอาจเลือนหาย…
พระเจ้าตากสิน
พระเจ้าตากสินมหาราช คือวีรบุรุษกู้ชาติ ผู้ปลุกเร้าจิตวิญญาณกู้แผ่นดินหลังกรุงศรีฯ แตก พระเจ้าตากสินได้ขับไล่พม่า สถาปนากรุงธนบุรี ทรงปฏิรูปการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ฝีมือทหารกล้าหาญ ปกป้องไทยจนวาระสุดท้าย พระราชกรณียกิจมากมาย ทำให้พระองค์ได้รับยกย่องเป็น “มหาบุรุษกู้ชาติ” และเป็นวีรบุรุษในดวงใจชาวไทยเสมอมา
ประวัติพระเจ้าตากสิน
พระราชสมภพ
พระเจ้าตากสินมหาราช มีพระนามเดิมว่า สิน เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 ที่หมู่บ้านนาสีทอง อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา บิดาชื่อ นายอิน มารดาชื่อ นางทองดี สืบเชื้อสายจากจีนฮกเกี้ยน
การศึกษา
พระเจ้าตากสินทรงเริ่มศึกษาเล่าเรียนกับพระอาจารย์ทองดี วัดอินทราราม มีความรู้ความสามารถทั้งในด้านวิชาการและวิชาชีพทหาร ภายหลังได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หลวงยกกระบัตรเมืองตาก”
ชีวิตราชการ
พระเจ้าตากสินทรงปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ภายหลังเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าครั้งที่ 2 พระองค์ได้รวบรวมกำลังพลกู้เอกราชคืนจากพม่า สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี
การกอบกู้เอกราช
การกอบกู้เอกราชจากพม่าของพระเจ้าตากสินมหาราช เกิดขึ้นภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ. 2310 เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย เนื่องจากเป็นการกู้เอกราชของชาติไทยจากการเป็นเมืองขึ้นของพม่า
เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เกิดขึ้นเมื่อพม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2309 กองทัพพม่ามีกำลังพลมากกว่ากองทัพไทยมาก และสามารถยึดกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงถูกพม่าประหารชีวิต
การสถาปนากรุงธนบุรี
หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างชุมนุมต่างๆ ในประเทศไทย พระเจ้าตากสินมหาราช อดีตนายทหารเอกของกรุงศรีอยุธยา ทรงรวบรวมกำลังพลและสามารถปราบชุมนุมต่างๆ ได้สำเร็จ จากนั้นจึงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310
สงครามระหว่างกรุงธนบุรีกับพม่า
หลังจากสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว พระเจ้าตากสินมหาราชทรงทำสงครามกับพม่าหลายครั้ง เพื่อขยายพระราชอาณาเขตและปกป้องเอกราชของชาติไทย สงครามที่สำคัญ ได้แก่
- สงครามเก้าทัพ พ.ศ. 2311 พระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำทัพไทยเข้าตีพม่าที่เมืองเชียงใหม่และเมืองพะสิม กองทัพไทยสามารถเอาชนะพม่าได้สำเร็จ
- สงครามตีเมืองจันทบุรี พ.ศ. 2313 พระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำทัพไทยเข้าตีเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพม่าในภาคตะวันออก กองทัพไทยสามารถยึดเมืองจันทบุรีได้สำเร็จ
- สงครามตีเมืองนครราชสีมา พ.ศ. 2314 พระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำทัพไทยเข้าตีเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพม่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองทัพไทยสามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้สำเร็จ
ผลของการกอบกู้เอกราช
การกอบกู้เอกราชของพระเจ้าตากสินมหาราช ประสบความสำเร็จ พระองค์สามารถขับไล่พม่าออกจากประเทศไทย และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ การกอบกู้เอกราชครั้งนี้เป็นการปูรากฐานให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ข้อคิด
การกอบกู้เอกราชของพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นตัวอย่างของความกล้าหาญและเสียสละเพื่อชาติ พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยรุ่นหลังในการต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของชาติ
พระราชกรณียกิจ ของพระเจ้าตากสิน
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งในด้านการเมือง การบริหาร และวัฒนธรรม ดังนี้
ด้านการเมือง
- การสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ในปี พ.ศ. 2310 พระเจ้าตากสินทรงรวบรวมกำลังพลกู้เอกราชจากพม่าได้สำเร็จ แล้วทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่
- การปฏิรูปการปกครอง ทรงตั้งระบบการปกครองแบบ “จตุสดมภ์” และ “ธรรมาธิปไตย” โดยให้อำนาจสูงสุดอยู่ที่พระมหากษัตริย์
- การต่างประเทศ ทรงทำสงครามกับพม่าและกัมพูชาหลายครั้ง เพื่อขยายพระราชอาณาเขต
ด้านการบริหาร
- การปฏิรูปเศรษฐกิจ ทรงส่งเสริมการกสิกรรมและการค้าขาย
- การปฏิรูปการศึกษา ทรงตั้ง “สำนักสอนหนังสือ” ขึ้น เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชน
- การยุติระบบไพร่ทาส ทรงยกเลิกระบบไพร่ทาสบางส่วน อนุญาตให้ไพร่มีสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดิน
ด้านวัฒนธรรม
- การฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ทรงบูรณะวัดวาอารามและส่งเสริมศิลปะการแสดง
- การส่งเสริมศาสนา ทรงให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนา ทรงสร้างวัดวาอารามและปูชนียสถานต่างๆ มากมาย
พระราชกรณียกิจของพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นการปูรากฐานให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างพระราชกรณียกิจที่น่าสนใจ
- การยกเลิกระบบทาส พระเจ้าตากสินทรงยกเลิกระบบทาสบางส่วน อนุญาตให้ไพร่มีสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดิน เป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
- การปฏิรูปการศึกษา พระเจ้าตากสินทรงตั้ง “สำนักสอนหนังสือ” ขึ้น เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชน เป็นการยกระดับความรู้ของประชาชนและช่วยให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
- การฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม พระเจ้าตากสินทรงบูรณะวัดวาอารามและส่งเสริมศิลปะการแสดง เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป
พระราชกรณียกิจของพระเจ้าตากสินมหาราช ล้วนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนทั้งสิ้น พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างมากมาย
ผลงานด้านศิลปะ วัฒนธรรม ของพระเจ้าตากสิน
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงให้ความสำคัญกับศิลปะและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป ผลงานด้านศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญของพระองค์ ได้แก่
- การบูรณะวัดวาอาราม พระองค์ทรงบูรณะวัดวาอารามต่างๆ มากมาย เช่น วัดอรุณราชวราราม วัดราชคฤห์ วัดอินทาราม และวัดหงส์รัตนาราม เป็นต้น การบูรณะวัดวาอารามเหล่านี้เป็นการอนุรักษ์ศิลปะไทยและสร้างความสวยงามให้กับเมืองหลวง
- การส่งเสริมศิลปะการแสดง พระองค์ทรงส่งเสริมศิลปะการแสดงต่างๆ เช่น ละคร รำ และดนตรี การส่งเสริมศิลปะการแสดงเหล่านี้เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและสร้างความบันเทิงให้กับประชาชน
- การส่งเสริมศาสนา พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนา ทรงสร้างวัดวาอารามและปูชนียสถานต่างๆ มากมาย เช่น พระเจดีย์วัดอรุณราชวราราม และพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เป็นต้น การส่งเสริมศาสนาเหล่านี้เป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
ผลงานด้านศิลปะวัฒนธรรมของพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างมากมาย
ตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจ
- พระเจดีย์วัดอรุณราชวราราม เป็นพระเจดีย์ทรงปรางค์สูง 320 วา สร้างด้วยหินทรายสีขาว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ เป็นการผสมผสานศิลปะไทยและศิลปะจีนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
- พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เป็นพระปรางค์ทรงสี่เหลี่ยมสูง 58 วา สร้างด้วยหินทรายสีขาว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ เป็นการผสมผสานศิลปะไทยและศิลปะจีนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
- ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดอรุณราชวราราม เป็นภาพจิตรกรรมที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และวรรณคดีไทย เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป
ผลงานเหล่านี้เป็นตัวอย่างผลงานด้านศิลปะวัฒนธรรมของพระเจ้าตากสินมหาราช ผลงานเหล่านี้ล้วนสวยงามและทรงคุณค่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถและความรักในศิลปวัฒนธรรมของพระองค์
บทส่งท้ายแห่งวีรบุรุษ พระเจ้าตากสิน
สิ้นแสงดาวตากสิน ดับแสงตะวันศึกพม่า
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงปกครองกรุงธนบุรีเป็นเวลา 15 ปี พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งในด้านการเมือง การบริหาร และวัฒนธรรม พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2325 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นภายในกรุงธนบุรี ขุนนางบางส่วนไม่พอใจการปกครองของพระเจ้าตากสิน พระองค์ทรงถูกจับและประหารชีวิตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325
การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ธนบุรี กรุงธนบุรีได้เปลี่ยนเป็นราชวงศ์จักรี ภายใต้การปกครองของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
มรดกวีรกรรม ขจรไกล ส่งต่อรุ่นหลัง
แม้พระเจ้าตากสินมหาราชจะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่วีรกรรมของพระองค์ยังจารึกอยู่ในใจของคนไทยตลอดไป พระองค์ทรงเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยจากการเป็นเมืองขึ้นของพม่า พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยรุ่นหลังในการต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของชาติ
วีรกรรมของพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับการบันทึกและเผยแพร่ในหลายรูปแบบ เช่น วรรณคดี ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ วีรกรรมของพระองค์ยังได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ พระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2536
มรดกวีรกรรมของพระเจ้าตากสินมหาราช จะขจรไกลและส่งต่อไปยังรุ่นหลังตราบนานเท่านาน พระองค์จะเป็นวีรบุรุษผู้เป็นที่รักและเคารพของคนไทยตลอดไป
วันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี
ในทุก ๆ วันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันที่สำคัญ ที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เนื่องจากวันนี้มีความคล้ายคลึงกับวันปราบดาภิเษก ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (28 ธันวาคม 2310) ทรงเดินทางสู่กรุงธนบุรีและถือมงกุฏพระราชบิดาในฐานะพระมหากษัตริย์ที่เดียว
ในช่วงรับราชการในกรุงศรีอยุธยา, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้รับเคารพทั้งจากพระปรีชาสามารถทางบก และในสายตาของนายทหารกองทัพเรือ มีการยอมรับถึงความสามารถทางทะเลของพระองค์ด้วย ตั้งแต่ก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา จนถึงการปราบดาภิเษก มีบันทึกเหตุการณ์การรบทางเรือที่เป็นมาตรฐานทั้งจากทั้งพระราชพงศาวดารและเอกสารที่ไม่ได้มาจากพระราชพงศาวดารเอง
บทสรุป
พระเจ้าตากสิน ไม่ใช่แค่ “กษัตริย์” แต่เป็น “วีรบุรุษ” ผู้ปลุกเร้าเลือดรักชาติ พระองค์ไม่ได้มอบแค่เอกราช แต่สอนบทเรียนอันล้ำค่า: ความกล้าหาญ ทุ่มเท เสียสละ และหวังเพื่อแผ่นดิน บทเรียนเหล่านี้ยังคงก้องอยู่ในท่วงปืน ปรากฏในศิลาแลง วัดวาอาราม และวิถีชีวิตคนไทย พระเจ้าตากสินไม่ได้จากไปไหน ท่านยังสถิตอยู่ในสายเลือดลูกหลาน ยังคงคอยนำทาง ให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ยั่งยืน สืบไป ชีวิตวีรบุรุษผู้กอบกู้สิ้นสุดลงแล้ว ภารกิจสืบสานความเจริญรุ่งเรืองของสยาม… ตกอยู่ที่พวกเราคนไทยเท่านั้น
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
- กรมศิลปากร. (2535). พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับบริบูรณ์. กรุงเทพฯ: รุ่งเรืองวิทยา.
- กรมศิลปากร. (2548). สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
- นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2549). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. กรุงเทพฯ: มติชน.
- ยุวดี เรืองศรี. (2552). พระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน.
- สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2557). พระเจ้าตากสินมหาราช: ตำนาน ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม. กรุงเทพฯ: มติชน.
ร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “พระเจ้าตากสินมหาราช สรุปประวัติพระเจ้าตากสิน”